ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เสริมแกร่ง! “สหกรณ์ไทย”
กรมส่งเสริมสหกรณ์ วาง 4 แนวทาง สร้างความเข้มแข็งให้ขบวนการสหกรณ์ 


เนื่องในวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2563 กรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับขบวนการสหกรณ์ทั่วประเทศ จัดพิธีน้อมรำลึกพระกรุณาธิคุณ พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย โดยในส่วนกลาง สันนิบาติสหกรณ์แห่งประเทศไทย และขบวนการสหกรณ์ไทยและเครือข่าย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจัดพิธีวางพานพุ่ม เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ “พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย” ณ บริเวณลานพระรูปพระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย สันนิบาติสหกรณ์แห่งประเทศไทย โดยมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน



นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในปี 2563  เพื่อการสร้างความเข้มแข็งให้กับขบวนการสหกรณ์ ว่า กรม ฯ ได้วางแนวทางการกำกับดูแลสหกรณ์ไว้ 4 เรื่อง หลัก ๆ คือ 1) การบริหารจัดการภายในของสหกรณ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสาเหตุที่ทำให้สหกรณ์เกิดความบกพร่องและมีปัญหา กรมฯ จะเข้าไปส่งเสริมให้เกิดระบบบริหารจัดการ ระบบควบคุมภายใน  โดยฝ่ายจัดการของสหกรณ์ต้องเข้าไปควบคุมดูแลให้ใกล้ชิดขึ้น  2) การพัฒนาธุรกิจของสหกรณ์  สำหรับสหกรณ์ภาคการเกษตรจะเน้นเรื่องการรวบรวมผลผลิต และราคาพืชผลการเกษตร  การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมไปถึงการเก็บชะลอผลผลิตต่าง ๆ  ส่วนสหกรณ์ออมทรัพย์ ปีนี้จะเน้นเรื่องการตรวจสอบภายใน  โดยจะให้ความรู้แก่สมาชิกเพื่อเข้ามาดูแล  ตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการสหกรณ์  ขณะนี้ได้เริ่มให้ความรู้แก่สมาชิกผ่านทางระบบออนไลน์เป็นลำดับแรก เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับระบบสหกรณ์  3) บทบาทของกรมส่งเสริมสหกรณ์ในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ จะเน้นเรื่องการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา ด้วยการวางข้อกำหนด กฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อการป้องกัน  รวมไปถึงการให้เจ้าหน้าที่ของกรม ฯ เข้าไปดูแล ให้คำแนะนำในช่วงก่อนที่จะตัดสินใจเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา  และเมื่อสหกรณ์เกิดปัญหา  ก็ได้กำชับให้สหกรณ์จังหวัดในฐานะนายทะเบียนสหกรณ์แก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ฉับไว  เพื่อไม่ให้ความเสียหายลามเข้าไปในสหกรณ์และลามไปถึงสมาชิก  4) การแก้ไขปัญหาหนี้สินให้สมาชิกสหกรณ์โดยการพัฒนาอาชีพ เพราะในปัจจุบันสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ และสหกรณ์ในภาคการเกษตร มีหนี้สินครัวเรือนสูงมาก กรมฯ จะเข้าไปดูแลในส่วนนี้ หลังจากนั้นไปดูเรื่องการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับสมาชิกสหกรณ์เพื่อให้มีเงินมาชำระหนี้  

นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ 
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์

สำหรับเรื่องการพัฒนาอาชีพการเกษตรให้กับสหกรณ์ ปีนี้จะเน้นเรื่องการเกษตรที่ทำรายได้เร็ว เช่น พืช ผัก ผลไม้ และจะเน้นผลผลิตที่มีมาตรฐาน จีเอพีและสินค้าเกษตรอินทรีย์  มีสร้างระบบน้ำขึ้นมารองรับ ปีนี้กรม ฯ จะสนับสนุนเงินกู้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์ในการจัดหาแหล่งน้ำ  เป็นเงินจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ประมาณ 700 ล้านบาท  รวมกับเงินจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรอีก 500 ล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรีเพิ่งผ่านความเห็นชอบ เพื่อให้สมาชิกกู้ไปเพื่อจัดหาแหล่งน้ำ  ขุดสระน้ำ หรือขุดบ่อบาดาล 


ในส่วนของการดำเนินงานตามนโยบายของภาครัฐ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้กำกับดูแลงานของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้วางแนวทางการดำเนินงานให้กรม ฯ ไว้ 2 เรื่อง  คือ การสร้างซูเปอร์มาร์เก็ตของสหกรณ์ เพื่อเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าของสหกรณ์ ขณะเดียวกันก็จะเป็นตัวผลักดันให้เกิดการผลิตสินค้าปลอดภัยขึ้นในกระบวนการสหกรณ์ ปีนี้ตั้งเป้าไว้ประมาณ 100 สหกรณ์  ที่จะทำเรื่องผลิตสินค้าปลอดภัยและสินค้าอินทรีย์  ส่วนเรื่องที่สอง คือเรื่อง พาเกษตรกรกลับบ้าน เป็นการสร้างนักเกษตรรุ่นใหม่ที่ประกอบอาชีพการเกษตร แล้วก็จะดึงสหกรณ์เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการช่วยเหลือพวกสมาชิกเหล่านั้น  และต่อจากนั้นเราก็คาดหวังไว้ว่า คนกลุ่มนี้จะกลับเข้ามาเป็นผู้บริหารสหกรณ์ในอนาคต 


นายพิเชษฐ์ ได้ให้ความเห็นถึงกรณีที่มีความกังวลต่อโรคระบาด “โควิด-19” ที่จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกทุเรียนและผลไม้ไปประเทศจีน ว่า การส่งออกผลไม้ของขบวนการสหกรณ์ไม่ได้ส่งออกด้วยตนเอง แต่ส่งผ่านทางผู้ส่งออก ขณะนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สำรวจตัวเลขผลไม้ที่ส่งออกทั้งหมดที่ร่วมกับผู้ประกอบการแล้วว่าหากมีการชะลอการส่งออกจริง  จะต้องส่งผลกระทบแน่นอน ซึ่งกรมฯ ได้วางแผนเตรียมรับมือ และหาทางออกในเบื้องต้นไว้แล้ว เช่น การกระจายสินค้าภายในประเทศ ซึ่งกรมฯ ก็ได้เชื่อมเครือข่ายสหกรณ์ไว้มากพอสมควรที่จะกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศได้ แต่จะสามารถรองรับปริมาณผลไม้ทั้งหมดได้หรือไม่ ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะยังไม่มีตัวเลขที่แท้จริง เป็นเพียงการคาดการณ์ไว้เท่านั้น แต่ขณะนี้ข้อมูลทั้งหมด กรม ฯ ได้รวบรวมไว้หมดแล้ว เหลือแต่รายละเอียดเป็นรายสหกรณ์ และอยู่ระหว่างพิจารณาหาทางรับมือเพื่อลดผลกระทบ






ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

2-4 ธันวาคมนี้ พบกันที่ งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024)

สมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ พันธมิตรในภาคตะวันออก และภาครัฐ ร่วมจัดงานสัตว์น้ำเศรษฐกิจยิ่งใหญ่ประจำปี 2567 งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3-4 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมซันไรส์ ลากูน โฮเทลแอนด์กอล์ฟ จ.ฉะเชิงเทรา ภายใต้แนวความคิด “ปรับกลยุทธ์สัตว์น้ำไทย สร้างกำไรทุกภาคส่วน” โดยสมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ สมาคม สหกรณ์ ชมรม กลุ่มแปลงใหญ่ ในภาคตะวันออกก รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ และบริษัทเอกชนผู้ร่วมสนับสนุน ภายใต้มีวัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อเผยแพร่ความรู้ นวัตกรรม การส่งต่อข้อมูลเพื่อให้เกษตรกร สามารถวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ ถ่ายทอดแนวทางการลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่ในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และกระตุ้นให้มีการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น ภายในงานมีการเสวนา และสัมมนาให้ความรู้กับเกษตรกรและผู้ที่สนใจ ตลอดระยะเวลาการจัดงาน ทั้ง 3 วัน รวมถึงมีการจัดแสดงสินค้าของบริษัทและผู้ค้าปัจจัยการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยมีพื้นที่จัดแสดงสินค้ามากกว่า 70 บูท และมีบริษัทสนใจเข้าร่วม...

นวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้สู่ชุมชน

  วช. เสริมแกร่ง มรภ.อุตรดิตถ์ ผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 IN 1 จากวัสดุเหลือทิ้ง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นักวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ นำองค์ความรู้ และนวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้พื้นที่เป้าหมาย สร้างเกษตรกรต้นแบบ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.สุรินทร์ กว่า 100 ราย แนะใช้ถ่านดูดซับกลิ่น ความชื้น ยกระดับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้ อมให้ยั่งยืน โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนั กงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จากปัญหาเศษวัสดุเหลือทิ้ งทางการเกษตร อาทิ เปลือกทุเรียน เหง้ามันสำปะหลัง แกนข้าวโพด ข้อไม้ไผ่ รวมถึงเศษกิ่งไม้ริมทาง ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิ ดประโยชน์มากนัก  อีกทั้งการจัดการโดยเผาเศษวัสดุ เหลือทิ้งในที่โล่ง ยังเป็นการปล่อยก๊าซเรื อนกระจกและมลสารเข้าสู่ชั้ นบรรยากาศ องค์ความรู้และนวัตกรรมการผลิ ตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 ด้วยวิธีไพโรไลซิส จึงนับเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ ไขประเด็นปัญหาดังกล่าวได้ ขณะนี้นักวิจัยได้ถ่ายทอดองค์ ความรู้และติดตั้งนวัตกรรมแล้ว ประกอบด้วย เตาผลิตถ่านดูดกลิ่นแบบไพโรไลซิ ส เครื่...

FTA ผนึกความร่วมมือภาคี “การลดมลพิษทางอากาศด้วยการหลีกเลี่ยงการเผาในภาคเกษตรกรรม”

  Friends of Thai Agriculture: FTA ผนึกความร่วมมือภาคี จัดประชุมนานาชาติ “แนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาการเผาพืชผลทางการเกษตรในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” กรุงเทพฯ , 1 ตุลาคมที่ผ่านมา - ผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรกรรมกว่า 250 คน รวมถึงสื่อมวลชนไทย 16 แห่ง นักการทูต ผู้กำหนดนโยบาย และผู้นำภาคเอกชน ได้เข้าร่วมงานสัมมนาเรื่อง "การลดมลพิษทางอากาศด้วยการหลีกเลี่ยงการเผาในภาคเกษตรกรรม" Reduction of Air Pollution through Avoidance of Burning in Agriculture’ เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของประเทศไทย นั่นคือการเผาในภาคเกษตรกรรม งานนี้จัดโดย Friends of Thai Agriculture – FTA ร่วมกับ องค์กรนานาชาติหลายแห่ง ได้แก่ สมาคมเกษตรกรรมเยอรมัน ( DLG), GETHAC, GIZ Thailand, Winrock International และศูนย์เครื่องจักรกลเกษตรอย่างยั่งยืนแห่ง UNESCAP โดยงานสัมมนาได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาที่สร้างสรรค์เพื่อลดมลพิษ PM2.5 ที่เกิดจากการเผาข้าว ข้าวโพด และอ้อยในประเทศไทย สถานการณ์การเผาในภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย  การเผาในภาคเกษตรกรรมเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดมลพิษ PM2.5 ซึ่งส่...