วช. เปิดเผยผลวิเคราะห์ ราคา จำนวนการฉีด
และช่วงเวลาที่น่าจะมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
วันที่ 24 กรกฎาคม 2563 ศาสตราจารย์
ดร. นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล
เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยของชาติ
(วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
รายงานการติดตามความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนโรคโควิด-19
ของทั่วโลกว่า ในสัปดาห์นี้มีข้อมูลสำคัญที่น่าตื่นเต้นมาตลอดสัปดาห์
โดยมีรายงานผลการทดสอบวัคซีนในมนุษย์ในระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ที่ให้ผลน่าพอใจ โดยเฉพาะวัคซีนที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดร่วมกับบริษัทแอสตราเซเนคา
ประเทศอังกฤษ และวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทแคนไซโน ประเทศจีน
พบว่าวัคซีนทั้งสองแบบนี้สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีในอาสาสมัคร
และไม่พบผลข้างเคียงรุนแรง
ประกอบกับสัปดาห์ก่อนหน้านี้มีรายงานผลการทดสอบวัคซีนของบริษัทโมเดิร์นนา
ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลเป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วย
ซึ่งผลดังกล่าวทำให้นักวิทยาศาสตร์มีความมั่นใจมากขึ้นว่าจะสามารถพัฒนาและผลิตวัคซีนที่ใช้งานได้
โดยในขณะนี้มีวัคซีนที่กำลังทดสอบในมนุษย์ถึง 30 แบบ
ซึ่งวัคซีนอย่างน้อยแบบใดแบบหนึ่งหรือหลายๆแบบน่าจะใช้งานได้
และการพัฒนาวัคซีนในช่วงต่อไปก็จะเข้าสู่การทดสอบระยะที่ 3
ในประชากรจำนวนมากเพื่อดูผลในการป้องกันการติดเชื้อ
ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะได้รับการรับรองเพื่อใช้งานทั่วไป
ศาตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล
เลขาธิการ วช.กล่าวต่อว่า การทดสอบในช่วงต่อไป
จะติดตามว่าภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหน
รวมทั้งติดตามโดยละเอียดในเรื่องความปลอดภัยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
และที่สำคัญจะต้องติดตามว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนนั้นจะไม่ติดเชื้อโดยเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน
เพราะในการทดสอบที่รายงานกันนี้เป็นการตรวจในห้องปฏิบัติการว่ามีระดับแอนติบอดีหรือมีภูมิคุ้มกันด้านเซลล์เพิ่มขึ้น
แต่ยังไม่ได้ยืนยันว่าภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นนี้จะสามารถป้องกันเชื้อได้หรือไม่
ซึ่งจะต้องใช้เวลาติดตามพอสมควรเพื่อให้มั่นใจ
นอกจากนี้ยังต้องเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการอีกด้วย
ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่น่าจะมีวัคซีนที่ใช้งานได้จริงโดยผ่านการทดสอบครบทุกขั้นตอนและผลิตได้ในปริมาณที่เพียงพอสำหรับคนจำนวนมากซึ่งนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลกได้คาดเอาไว้นั้น
น่าจะเป็นในกลางปีหน้าเป็นต้นไป ในช่วงต้นปี 2564
จะเริ่มมีวัคซีนจำนวนหนึ่งที่พร้อมใช้ในคน แต่จะยังคงมีจำนวนจำกัด
หลังจากนั้นจึงจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เพื่อให้มีวัคซีนจำนวนมากเพียงพอ
ในเรื่องรูปแบบการใช้งานและราคานั้น
วัคซีนแต่ละแบบที่กำลังทดสอบอยู่ในขณะนี้ให้ผลที่ใกล้เคียงกันโดยส่วนใหญ่จะเห็นผลว่ามีระดับภูมิคุ้มกันสูงเพียงพอหลังฉีดวัคซีนเข็มที่สอง
ดังนั้นจึงคาดว่าจะต้องฉีดวัคซีนคนละ 2 ครั้ง ห่างกันหนึ่งเดือน
และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ได้มีการเปิดเผยผลการเจรจาสำคัญที่บ่งบอกถึงแนวโน้มราคาของวัคซีน
โดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ตกลงสั่งซื้อวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทไบออนเทค
ประเทศเยอรมนี ร่วมกับบริษัทไฟเซอร์
ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นการจองซื้อวัคซีนล่วงหน้าหากวัคซีนประสบความสำเร็จโดยระบุราคาของวัคซีนไว้เลย
ทั้งนี้ได้สั่งซื้อวัคซีนจำนวน 100 ล้านเข็ม(สำหรับฉีดในคน 50 ล้านคน) ที่ราคา 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
เท่ากับเข็มละ 20 เหรียญสหรัฐ "ประเมินกันตอนนี้ ว่า วัคซีนโควิด-19 จะราคา 20 เหรียญหรือ 620
บาท ฉีดคนละ 2 เข็ม
เท่ากับค่าวัคซีน 1,240
บาท ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดเผยการคาดการณ์ราคาวัคซีนออกมา
เพราะก่อนหน้านี้ที่มีการจองวัคซีนกันเป็นกึ่งการให้ทุนวิจัยแต่ไม่ได้ระบุราคาของวัคซีนเอาไว้"
"ซึ่งราคาดังกล่าวนี้ใกล้เคียงกับราคาของวัคซีนไข้หวัดใหญ่"
นายแพทย์สิริฤกษ์ กล่าว
สำหรับประเทศไทย
มีการดำเนินงานด้านวัคซีนอย่างคู่ขนานกันทั้งสามแนวทาง คือ
การพัฒนาวัคซีนในประเทศ
และการรับถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนที่ผ่านการทดสอบแล้วจากต่างประเทศเพื่อให้ผลิตได้เพียงพอสำหรับคนไทยทั้งประเทศ
รวมทั้งการเตรียมจัดหาวัคซีนจากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
ประมวลข้อมูลโดย ศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์
และการวิจัยและพัฒนา
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น