อภัยภูเบศร ร่วมมือ สวก. เสริมแกร่งงานวิจัยสมุนไพรไทย หวังเป็นโมเดลต่อยอดภูมิปัญญาสู่นวัตกรรมใหม่ใช้ได้จริง พลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2563
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก.ร่วมกับ
มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ลงนามความร่วมมือ
ด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร
เพื่อผลักดันงานวิจัยให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างแท้จริงต่อประเทศชาติและประชาชน
ดร. สุวิทย์ ชัยเกียรติยศ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร
กล่าวว่า “สวก. เป็นหน่วยงานบริหารจัดการทุนวิจัยด้านการเกษตรของประเทศ
ได้รับมอบหมายให้บริหารจัดการโครงการวิจัยภายใต้แผนงานวิจัยมุ่งเป้าตอบสนองความต้องการในการพัฒนาประเทศ
คลัสเตอร์สมุนไพรไทย ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557– ปัจจุบัน เป็นจำนวนทั้งสิ้น 239
โครงการ คิดเป็นงบประมาณกว่า 456.5 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายเพื่อวิจัยและพัฒนาต่อยอดสมุนไพรไทยในด้านการรักษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ
รวมทั้งการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจที่มีความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมและภาคเศรษฐกิจต่างๆ
ตลอดจนขับเคลื่อนงานอย่างเป็นระบบครบวงจร
ทำให้เกิดความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งผลการวิจัยที่ได้ต้องมีเป้าหมายผลผลิตและผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
โดยในการจัดทำบันทึกความร่วมมือกับอภัยภูเบศรในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันในด้านการอนุรักษ์
การวิจัยและพัฒนาสมุนไพร ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และยาแผนไทยให้ครบวงจร
และนำเอาองค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยมาสู่การใช้หรือการปฏิบัติจริงซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล
ให้สามารถต่อยอดผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ทั้งในเชิงสาธารณะ เชิงนโยบาย
และเชิงพาณิชย์
ตลอดจนถ่ายทอดเทคโนโลยีและส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความมั่นคง
มั่งคั่ง และยั่งยืนของประเทศต่อไป
ผ่านกิจกรรมสนับสนุนงานวิจัยเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์สมุนไพรของมูลนิธิฯ
ให้ได้มาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง รวมถึงพัฒนาโจทย์วิจัยร่วมกันระหว่าง
สวก. และมูลนิธิฯ ในการพัฒนานวัตกรรมหรือรูปแบบผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อตอบโจทย์ของตลาดและผู้บริโภค
รวมถึงดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาบุคลากรด้านการเกษตร
ผ่านกิจกรรมความร่วมมือกันในการจัดฝึกอบรม
เพื่อยกระดับการพัฒนาสมุนไพรไทย เช่น หลักสูตร
การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสมุนไพรไทยในการรักษาโรคอุบัติใหม่/ข้อกำหนดของตำรับมาตรฐานยาสมุนไพรไทย
ให้แก่นักวิจัย เพื่อร่วมกันพัฒนางานวิจัยต่อไปในอนาคต รวมถึงหลักสูตร
การพัฒนาและการแปรรูปวัสดุเหลือทิ้งจากพืชสมุนไพรไทย
เพื่อสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มเกษตรกร/องค์ความรู้ให้กับชุมชน
อีกทั้งยังมีแนวทางในการดำเนินงานร่วมกันในด้านการรวบรวมทรัพยากรพันธุกรรมพืช (Germplasm) และร่วมแบ่งปันข้อมูลด้านภูมิปัญญาสมุนไพร/งานวิจัยสมุนไพร
เพื่อเป็นองค์ความรู้และฐานข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจสืบค้นข้อมูลได้
ผ่านความร่วมมือกับมูลนิธิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยความร่วมมือระหว่าง สวก.
กับ มูลนิธิฯ ที่ผ่านมานั้น สวก.
ได้ดำเนินการให้การอนุญาตให้ใช้สิทธิผลงานวิจัยแก่มูลนิธิฯ ไปแล้ว 3 โครงการ
อยู่ในระหว่างพิจารณาในคณะอนุกรรมการฯ เพื่ออนุญาตให้ใช้สิทธิผลงานวิจัยจำนวน 2
โครงการ รวมถึง สวก. ได้ดำเนินการส่งมอบผลงานวิจัยกลุ่มเรื่องสมุนไพรไทย
ที่เป็นเชิงสาธารณะให้แก่มูลนิธิฯ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์อีก 15 โครงการ”
ผู้อำนวยการ สวก. กล่าว
อีกงานคือ วิจัยแร้งคอคำ
ซึ่งมีผลิตภัณฑ์แล้วในต่างประเทศ
โดยจะทำการศึกษาเรื่องการชะลอความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก
ซึ่งจะทำการศึกษาตั้งแต่การปลูก จนถึงการสกัด และการทดสอบฤทธิ์ยา และเชื่อว่า
หากเราสามารถเพิ่มการวิจัยรองรับได้ จะช่วยให้ตลาดสมุนไพรของไทยมีความเข้มแข็ง
และยกระดับเศรษฐกิจภายในประเทศได้ ความร่วมมือที่ทำร่วมกับ สวก. ในครั้งนี้
เชื่อว่าจะได้ช่วยให้งานวิจัยสมบูรณ์ขึ้น โดยเราจะนำพืชสมุนไพรที่ทาง สวก.
ได้ศึกษาแล้ว มาปลูก ขยายพันธุ์ และส่งต่อแก่ภาคเกษตรกร รวมถึงผู้ประกอบการที่สนใจ
และนำไปสู่การสร้างมูลค่าให้กับสมุนไพรไทยได้ในอนาคต”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น