ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

วช. จับมือ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ส่งเสริมสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรม และบุคลากรการวิจัยและนวัตกรรม ด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

 


สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดงานแถลงข่าวการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมและสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรม และบุคลากรการวิจัยและนวัตกรรม ด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ระหว่างสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดย ดร.ภญ.อัญชลี จูฑะพุทธิ ที่ปรึกษากรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหาร วช. และคณะผู้บริหารกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเข้าร่วมงานแถลงข่าว


การลงนามข้อตกลงดังกล่าว เกิดขึ้นจากความร่วมมือของสองหน่วยงานที่ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อรองรับการวิจัยและพัฒนาด้านสมุนไพร การแพทย์แผนไทย และการแพทย์ดั้งเดิม ตลอดจนการได้มาซึ่งผลงานวิจัยที่ได้มาตรฐานและตอบสนองต่อความต้องการระดับนโยบายซึ่งมีผลต่อการขับเคลื่อนระบบสุขภาพและเศรษฐกิจของประเทศ โดยร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานวิจัยและนวัตกรรม ผลักดันและสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบวิจัยของประเทศในภาพรวม ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพบุคลากรวิจัยและนวัตกรรมด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกของประเทศ โดยใช้ประสบการณ์ของ วช. ในฐานะหน่วยงานกลางด้านการบริหารงานวิจัยของประเทศ และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ให้เกิดประโยชน์สูงสุด


ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง กล่าวว่า ในฐานะที่ วช. เป็นองค์กรหลักด้านการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งกระทรวงฯ มี 3 พันธกิจหลัก คือ 1) สร้างและพัฒนา “คน” ให้เป็น Smart Citizen 2) สร้างและพัฒนา “นวัตกรรม” ไปสู่ประเทศฐานนวัตกรรม และ 3) สร้างและพัฒนา องค์ความรู้” ไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่เน้นคุณค่า โดย วช. มีแนวทางการบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมในประเด็นสำคัญของประเทศ และมีการกำหนดเป้าหมายของการวิจัยทั้งแบบ Top-down และ Bottom-up ประกอบด้วย ชุดโครงการวิจัยท้าทายไทย กลุ่มโครงการวิจัยมุ่งเป้า และโครงการย่อย ฯลฯ เมื่อกล่าวถึงความเชื่อมโยงกระบวนงานตามภารกิจ วช. จะเชื่อมโยงใน 2 ส่วน คือ 1) เชื่อมโยงกับกลไกการให้ทุน ได้แก่ ทุนวิจัยในเชิงรุกตามประเด็นยุทธศาสตร์, ทุนวิจัยเฉพาะทางเพื่อความเป็นเลิศเชิงวิชาการที่สอดคล้องกับประเด็นยุทธศาสตร์, ทุนวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพื้นที่ อุตสาหกรรม ท้องถิ่น, บูรณาการแผนงาน โครงการวิจัยกับการส่งเสริมการวิจัยเพื่อฐานวิชาการและสร้างเส้นทางอาชีพนักวิจัยและนวัตกรรม 2) เชื่อมโยงกับกลไกการสร้างแรงจูงใจ ได้แก่ การให้รางวัลและประกาศเกียรติคุณยกย่องเชิดชู และเส้นทางความก้าวหน้าที่ชัดเจนและเชื่อมกับฐานข้อมูล ส่งผลให้เกิดเชื่อมโยงทุกระดับ และจากความร่วมมือในวันนี้ วช. และกรมการแพทย์ไทยและการแพทย์ทางเลือก จะเริ่มต้นจากการดำเนินการ “โครงการร่วมให้ทุนพัฒนาบุคลากรการวิจัยและนวัตกรรม” ตามแผนการพัฒนาและสนับสนุนเส้นทางอาชีพนักวิจัยและนวัตกรรม ด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกก่อน เพื่อเป็นการสนับสนุนทุนพัฒนาบุคลากรระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ที่อยู่ภายใต้ทุนต่าง ๆ ดังนี้ 1) ทุนพัฒนาบัณฑิตศึกษา 2) ทุนโครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (ทุน พวอ.) 3) ทุนโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก (ทุน คปก.)


ดร.ภญ.อัญชลี จูฑะพุทธิ ที่ปรึกษากรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ที่ผ่านมา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มีโครงการที่ผ่านการอนุมัติให้ดำเนินการวิจัยจากหน่วยงานที่สนับสนุนงบประมาณเพื่อใช้ในการดำเนินการวิจัยจากแหล่งงบประมาณภาครัฐ โดยจำแนกตาม วิธีการนำเสนอ ได้แก่ บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารมาตรฐาน เช่น โครงการศึกษาฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งและกลไกในระดับโมเลกุลของตำรับยาเบญจอำมฤตย์ (Journal of Ethnopharmacology) ดำเนินการร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนเเก่น, การศึกษาประสิทธิผลและความปลอดภัยของตำรับยา N040 ในผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น บทความที่นำเสนอในงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างธาตุเจ้าเรือนกับระดับไขมันในเลือด: การสำรวจแบบภาคตัดขวาง, ผลของการใช้ยาประสะน้ำนมต่อปริมาณน้ำนมในมารดาหลังคลอด, ภูมิปัญญาการดูแลรักษาผู้มีภาวะมีบุตรยากของหมอพื้นบ้านในจังหวัดชุมพร และบทความที่ผ่านนำเสนอในงานประชุมวิชาการระดับชาติ และบทความที่อยู่ระหว่างการเผยแพร่/นำเสนออีกหลากหลายบทความ เช่น โครงการ First line drug (ฟ้าทะลายโจร ไพล ขมิ้นชัน; โครงการวิจัยการศึกษาประสิทธิผลและความปลอดภัยของครีมไพลในการรักษาผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมเปรียบเทียบกับยาเจลไดโคลฟีแนก) โดยดำเนินการร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม คณะแพทยศาสตร์ รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 


สำหรับการส่งเสริมและสนับสนุนบุคลากรการวิจัยและนวัตกรรม ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันสร้างนักวิจัยที่มีประสิทธิภาพ โดยมีโจทย์วิจัยที่ตอบสนองต่อภารกิจและยุทธศาสตร์และแผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทยของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ซึ่งจะช่วยสร้างบุคลากร รวมถึงการยกระดับคุณภาพกำลังคนและพัฒนางานวิจัยด้านสมุนไพรในภาครัฐที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง


     

 






ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้สู่ชุมชน

  วช. เสริมแกร่ง มรภ.อุตรดิตถ์ ผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 IN 1 จากวัสดุเหลือทิ้ง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นักวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ นำองค์ความรู้ และนวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้พื้นที่เป้าหมาย สร้างเกษตรกรต้นแบบ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.สุรินทร์ กว่า 100 ราย แนะใช้ถ่านดูดซับกลิ่น ความชื้น ยกระดับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้ อมให้ยั่งยืน โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนั กงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จากปัญหาเศษวัสดุเหลือทิ้ งทางการเกษตร อาทิ เปลือกทุเรียน เหง้ามันสำปะหลัง แกนข้าวโพด ข้อไม้ไผ่ รวมถึงเศษกิ่งไม้ริมทาง ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิ ดประโยชน์มากนัก  อีกทั้งการจัดการโดยเผาเศษวัสดุ เหลือทิ้งในที่โล่ง ยังเป็นการปล่อยก๊าซเรื อนกระจกและมลสารเข้าสู่ชั้ นบรรยากาศ องค์ความรู้และนวัตกรรมการผลิ ตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 ด้วยวิธีไพโรไลซิส จึงนับเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ ไขประเด็นปัญหาดังกล่าวได้ ขณะนี้นักวิจัยได้ถ่ายทอดองค์ ความรู้และติดตั้งนวัตกรรมแล้ว ประกอบด้วย เตาผลิตถ่านดูดกลิ่นแบบไพโรไลซิ ส เครื่...

เอ็นไอเอ โหมโรง “นิลมังกร” อัดฉีดผลงานนวัตกรรมเด่นพลิกฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด 19 โค้งสุดท้ายก่อนเฟ้นหาสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยภายใต้ “นิลมังกรแคมเปญ”

  สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายจำนวน 18 หน่วยงาน ได้แก่ ศูนย์แบรนด์เคยู คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค 14 มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จัดประกาศผลและมอบรางวัล “ สุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยประจำปี 2564 รอบภูมิภาค ( Thailand INNO BIZ Champion 2021 Regional Round) ภายใต้ “ นิลมังกรแคมเปญ ” ให้กับ 20 ธุรกิจนวัตกรรมจาก 4 ภูมิภาค ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ NIA กล่าวว่า “NIA มีหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุน และสร้างความสามารถการแข่งขันของประเทศด้วยการใช้นวัตกรรม ดังนั้นจึงได้ริเริ่มโครงการสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยระดับภูมิภาค ภายใต้ “ นิลมังกรแคมเปญ ” ขึ้น เพื่อสร้างตัวอย่างการทำธุรกิจนวัตกรรมในภูมิภาคให้คนในพื้นที่ได้เห็นถึงความสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและได้เรียนรู้กระบวนการสร้างธุรกิจนวัตกรรม ผ่านการสื่อสารในรูปแบบของ Edutainment เพื่อให้เป็นที่น่าสนใจ เข้าถึง และเข้าใจกระบวนการสร้างธุรกิ...

2-4 ธันวาคมนี้ พบกันที่ งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024)

สมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ พันธมิตรในภาคตะวันออก และภาครัฐ ร่วมจัดงานสัตว์น้ำเศรษฐกิจยิ่งใหญ่ประจำปี 2567 งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3-4 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมซันไรส์ ลากูน โฮเทลแอนด์กอล์ฟ จ.ฉะเชิงเทรา ภายใต้แนวความคิด “ปรับกลยุทธ์สัตว์น้ำไทย สร้างกำไรทุกภาคส่วน” โดยสมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ สมาคม สหกรณ์ ชมรม กลุ่มแปลงใหญ่ ในภาคตะวันออกก รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ และบริษัทเอกชนผู้ร่วมสนับสนุน ภายใต้มีวัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อเผยแพร่ความรู้ นวัตกรรม การส่งต่อข้อมูลเพื่อให้เกษตรกร สามารถวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ ถ่ายทอดแนวทางการลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่ในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และกระตุ้นให้มีการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น ภายในงานมีการเสวนา และสัมมนาให้ความรู้กับเกษตรกรและผู้ที่สนใจ ตลอดระยะเวลาการจัดงาน ทั้ง 3 วัน รวมถึงมีการจัดแสดงสินค้าของบริษัทและผู้ค้าปัจจัยการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยมีพื้นที่จัดแสดงสินค้ามากกว่า 70 บูท และมีบริษัทสนใจเข้าร่วม...