ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

วช.หนุนวิจัยอาหารไทยฮาลาลพร้อมกิน เพื่อชาวมุสลิมนักเดินทาง


วช.หนุนวิจัยอาหารไทยฮาลาลและอาหารไทยมังสวิรัติสำเร็จรูป สำหรับผู้สูงอายุและผู้นับถือศาสนาอิสลาม ตอบรับไลฟ์สไตล์นักเดินทางได้รับประทานอาหารไทยรสชาติที่คุ้นเคยในต่างแดน

ดร.พิศมัย ศรีชาเยช สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พัฒนากระบวนการผลิตอาหารไทยฮาลาลและอาหารไทยมังสวิรัติสำเร็จรูป สำหรับผู้สูงอายุและผู้นับถือศาสนาอิสลาม ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ผ่านโครงการวิจัยอาหารไทยมังสวิรัติและอาหารไทยฮาลาลสู่ตลาดโลก


นักวิจัยเผยว่า งานวิจัยนี้มีเป้าหมายเพื่อให้คนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองไทย ได้รับประทานอาหารไทยที่มีรสชาติถูกต้อง รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งหากมีโอกาสรับประทานอาหารไทยที่ต่างประเทศจะทราบว่า มีรสชาติที่ต่างออกไปจากรสชาติเดิมที่ถูกต้อง โดยเน้นอาหารฮาลาลและอาหารมังสวิรัติเพราะได้รับความนิยมมากขึ้นทั้งสองประเภท

 

ผลจากงานวิจัยได้พัฒนาอาหารสำเร็จรูปที่ผู้บริโภคสามารถฉีกซองรับประทานได้ทันที โดยบรรจุอยู่ในถุงรีทอร์ท สามารถเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องได้นาน 1 ปี โดยยังคงรสชาติเช่นเดิม และสามารถบรรจุในถ้วยหรือถาดพลาสติก แต่จะใช้เวลาในการฆ่าเชื้อนานกว่าการบรรจุในถุงรีทอร์ท



ทีมวิจัยได้เลือกพัฒนากระบวนการผลิตอาหารไทย 8 ผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็น อาหารไทยฮาลาล 4 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ แกงเผ็ดเป็ดย่าง พะแนงเนื้อ ข้าวหมกไก่ และไก่สะเต๊ะ และอาหารไทยมังสวิรัติ 4 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ แกงเขียวหวานหมี่กึง แกงมัสมั่นโปรตีน ผัดไทยมังสวิรัติ และต้มข่าเห็ด


ผลจากการทดสอบการยอมรับของนักท่องเที่ยวที่สวนนงนุช พัทยา จ.ชลบุรี และ จ.ภูเก็ต ได้รับการยอมรับเกิน 85% และได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการอิสลามกลางแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะอาหารที่มีเนื้อเป็นส่วนประกอบ และยอมรับในเรื่องรสชาติและความสะดวกต่อการเดินทางไกล เช่น การเดินทางไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ต่างประเทศ ขณะที่การผลิตอาหารไทยมังสวิรัติก็ยังสะดวกต่อการส่งจำหน่ายยังต่างประเทศ

 

ล่าสุด ดร.พิศมัย ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตอาหารไทยฮาลาลและอาหารไทยมังสวิรัติให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัดน้ำพริกแม่ศรีเกือบทั้งหมด ยกเว้นเพียงผัดไทยที่พบปัญหาว่าเมื่อเส้นผัดไทยสัมผัสอุณหภูมิสูงจะทำให้เส้นผัดไทยเละ โดยผู้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ความสนใจแกงเขียวหวานหมี่กึงอย่างยิ่ง เพราะนักวิจัยสามารถแก้ปัญหาหมี่กึงมีเนื้อสัมผัสแข็งเมื่อได้รับความร้อนสูงได้


ในส่วนของคุณค่าทางโภชนาการ ไม่พบจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคและจุลินทรีย์ที่ทำให้อาหารเสื่อมเสียในอาหารไทยฮาลาลและอาหารไทยมังสวิรัติ ส่วนพลังงานอยู่ระหว่าง 200-420 กิโลแคลอรี โดยผัดไทยให้พลังงานสูงสุดที่ 420 กิโลแคลอรี ในขณะที่ไก่สะเต๊ะให้พลังงานน้อยสุดที่ 200 กิโลแคลอรี และอาหารไทยมังสวิรัติยังไม่มีคอเลสเตอรอล และทั้งอาหารไทยฮาลาลและมังสวิรัติสำเร็จรูปยังมีวิตามินเอ แคลเซียมและเหล็ก โดยพบว่าแกงเผ็ดเป็ดย่างมีปริมาณวิตามินเอ แคลเซียมและเหล็กมากที่สุด








 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

2-4 ธันวาคมนี้ พบกันที่ งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024)

สมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ พันธมิตรในภาคตะวันออก และภาครัฐ ร่วมจัดงานสัตว์น้ำเศรษฐกิจยิ่งใหญ่ประจำปี 2567 งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3-4 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมซันไรส์ ลากูน โฮเทลแอนด์กอล์ฟ จ.ฉะเชิงเทรา ภายใต้แนวความคิด “ปรับกลยุทธ์สัตว์น้ำไทย สร้างกำไรทุกภาคส่วน” โดยสมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ สมาคม สหกรณ์ ชมรม กลุ่มแปลงใหญ่ ในภาคตะวันออกก รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ และบริษัทเอกชนผู้ร่วมสนับสนุน ภายใต้มีวัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อเผยแพร่ความรู้ นวัตกรรม การส่งต่อข้อมูลเพื่อให้เกษตรกร สามารถวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ ถ่ายทอดแนวทางการลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่ในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และกระตุ้นให้มีการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น ภายในงานมีการเสวนา และสัมมนาให้ความรู้กับเกษตรกรและผู้ที่สนใจ ตลอดระยะเวลาการจัดงาน ทั้ง 3 วัน รวมถึงมีการจัดแสดงสินค้าของบริษัทและผู้ค้าปัจจัยการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยมีพื้นที่จัดแสดงสินค้ามากกว่า 70 บูท และมีบริษัทสนใจเข้าร่วม...

นวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้สู่ชุมชน

  วช. เสริมแกร่ง มรภ.อุตรดิตถ์ ผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 IN 1 จากวัสดุเหลือทิ้ง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นักวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ นำองค์ความรู้ และนวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้พื้นที่เป้าหมาย สร้างเกษตรกรต้นแบบ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.สุรินทร์ กว่า 100 ราย แนะใช้ถ่านดูดซับกลิ่น ความชื้น ยกระดับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้ อมให้ยั่งยืน โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนั กงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จากปัญหาเศษวัสดุเหลือทิ้ งทางการเกษตร อาทิ เปลือกทุเรียน เหง้ามันสำปะหลัง แกนข้าวโพด ข้อไม้ไผ่ รวมถึงเศษกิ่งไม้ริมทาง ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิ ดประโยชน์มากนัก  อีกทั้งการจัดการโดยเผาเศษวัสดุ เหลือทิ้งในที่โล่ง ยังเป็นการปล่อยก๊าซเรื อนกระจกและมลสารเข้าสู่ชั้ นบรรยากาศ องค์ความรู้และนวัตกรรมการผลิ ตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 ด้วยวิธีไพโรไลซิส จึงนับเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ ไขประเด็นปัญหาดังกล่าวได้ ขณะนี้นักวิจัยได้ถ่ายทอดองค์ ความรู้และติดตั้งนวัตกรรมแล้ว ประกอบด้วย เตาผลิตถ่านดูดกลิ่นแบบไพโรไลซิ ส เครื่...

FTA ผนึกความร่วมมือภาคี “การลดมลพิษทางอากาศด้วยการหลีกเลี่ยงการเผาในภาคเกษตรกรรม”

  Friends of Thai Agriculture: FTA ผนึกความร่วมมือภาคี จัดประชุมนานาชาติ “แนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาการเผาพืชผลทางการเกษตรในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” กรุงเทพฯ , 1 ตุลาคมที่ผ่านมา - ผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรกรรมกว่า 250 คน รวมถึงสื่อมวลชนไทย 16 แห่ง นักการทูต ผู้กำหนดนโยบาย และผู้นำภาคเอกชน ได้เข้าร่วมงานสัมมนาเรื่อง "การลดมลพิษทางอากาศด้วยการหลีกเลี่ยงการเผาในภาคเกษตรกรรม" Reduction of Air Pollution through Avoidance of Burning in Agriculture’ เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของประเทศไทย นั่นคือการเผาในภาคเกษตรกรรม งานนี้จัดโดย Friends of Thai Agriculture – FTA ร่วมกับ องค์กรนานาชาติหลายแห่ง ได้แก่ สมาคมเกษตรกรรมเยอรมัน ( DLG), GETHAC, GIZ Thailand, Winrock International และศูนย์เครื่องจักรกลเกษตรอย่างยั่งยืนแห่ง UNESCAP โดยงานสัมมนาได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาที่สร้างสรรค์เพื่อลดมลพิษ PM2.5 ที่เกิดจากการเผาข้าว ข้าวโพด และอ้อยในประเทศไทย สถานการณ์การเผาในภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย  การเผาในภาคเกษตรกรรมเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดมลพิษ PM2.5 ซึ่งส่...