ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล แนะคิดนอกกรอบเพื่ออนาคตข้าว...อนาคตไทย ต้องนำวิทยาการสมัยใหม่จากเศรษฐกิจดิจิทัลมาปรับใช้


เมื่อเร็วๆนี้ มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์  ร่วมกับองค์กรเครือข่ายอีก 10 องค์กรจัดการประชุมเวทีข้าวไทย ปี 2563 ภายใต้หัวข้อ  “อนาคตข้าว... อนาคตไทย” โดยมีการจัดเสวนาใน 4 หัวข้อที่เปิดประเด็นการคิดนอกกรอบ เพื่อก้าวให้ถึงเป้าหมายอนาคตข้าวไทยที่ดีขึ้น



ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานมูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวย้ำ ในการเปิดการประชุมว่า “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานไว้ หนึ่งในประเด็นสำคัญคือได้ทรงเตือน ว่าการแสวงหาแนวทางเพื่อก้าวไปข้างหน้า ให้บรรลุเป้าหมาย ที่ตั้งไว้ “ต้องเตรียมตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก”  การจัดการประชุมเวทีข้าวไทยในครั้งนี้ จึงมีหัวข้อการเสวนาที่เป็นการคิดนอกกรอบ  มีมุมมองครบทั้งมิติทางสังคม และเศรษฐกิจ และนำวิทยาการสมัยใหม่จากเศรษฐกิจดิจิดัลมาปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม

โดยเวทีการเสวนาได้รวบรวมตัวอย่างของทุกภาคส่วนในแวดวงข้าว มาบอกเล่าประสบการณ์ครบถ้วนในทุกมิติ เริ่มตั้งแต่การผลิต ในหัวข้อ “นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อข้าวและชาวนา”  ชี้ให้เห็นความสำคัญของข้าว ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนา Application บนมือถือเพื่อการพยากรณ์อากาศ แสดงช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการบริหารจัดการแปลงนาในทุกช่วงของการปลูก จนถึงการเก็บเกี่ยว ทั้งนี้ Application เหล่านี้ได้วางรูปแบบให้ชาวนาแปลความ และใช้ประโยชน์ได้อย่างไม่ยาก นอกจากนี้ ยังมีชาวนารุ่นใหม่ที่กลับไปทำนาโดยใช้เทคโนโลยีในการปลูกข้าวและประสบความสำเร็จหลายเครือข่าย รวมทั้ง ข้าวยังสามารถนำมาสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าข้าว เช่น  ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งนับวันจะมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อย ๆ 


ในหัวข้อ “ข้าวเพื่อสุขภาพ” ได้เสนอประโยชน์ของข้าวที่ไม่ได้เป็นเพียงอาหารหลัก แต่ข้าวยังเป็นองค์ประกอบของสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังที่กล่าวว่า “กินข้าวเป็นยา” อาทิ ข้าวไทยมีดัชนีน้ำตาลต่ำ     ดีต่อผู้บริโภคที่เป็นเบาหวาน ข้าวหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะข้าวสี ที่ให้สารต้านอนุมูลอิสระสูง นอกจากนี้ ข้าวยังเป็นคำตอบสำหรับการบริโภคอาหารของผู้สูงวัย 


ในประเด็น “ข้าวในมิติของเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)” นักวิจัยจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ระบุว่า วงจรการผลิตและแปรรูปข้าว สามารถพัฒนาเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนได้โดยไม่ยากนัก โดยคุณสีเมือง ศรีสมบุตร ชาวนาจากจังหวัดอุบลราชธานี เป็นเจ้าของเครื่องจักกลการเกษตร อาทิ รถเกี่ยว รถไถ และเครื่องอัดฟาง  ได้เล่าตัวอย่างของการนำทุกส่วนของข้าวมาสร้างมูลค่าโดยไม่เหลือทิ้ง ตามหลักการของเศรษฐกิจหมุนเวียน อาทิ การใช้เครื่องอัดก้อนฟางข้าว สร้างมูลค่าของฟาง ไม่เพียงแต่สร้างรายได้เพิ่ม แต่ยังช่วยลดการเผาฟางที่ก่อปัญหา PM 2.5  อีกด้วย คุณสีเมืองกล่าวว่า ”สุขใจที่ได้ทำ ทำแยะ ได้แยะ” 


ประเด็นสุดท้ายที่กำลังเป็นทางเลือกใหม่ของการสร้างเศรษฐกิจจากข้าว คือ “ข้าวเพื่อการท่องเที่ยว  Rice -Tourism”  ซึ่งแสดงให้เห็นรูปแบบของการใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการสร้างมูลค่า ให้วิถีชาวนาไทย โดยการใช้แปลงนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนที่เป็นธรรมชาติ และปลอดภัย โดยไม่เพียงเป็นแหล่งสร้างรายได้ แต่ยังเป็นสถานที่เรียนรู้ สร้างความเข้าใจเรื่องวัฒนธรรมข้าว และแสดงให้เห็นถึงความสุขที่แท้จริง ของวิถีชาวนา 


และนี่ คือบางข้อคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมการประชุมเวทีข้างไทย

 

ทำแบบเดิม ก็ได้แบบเดิม ทำแบบใหม่ ก็จะได้เห็นโอกาสที่ดีกว่าเดิม”

 

ข้าวทำให้ครอบครัวมีความสุข สุขภาพแข็งแรง สร้างงาน สร้างอาชีพ รายได้”

 

ข้าวคือชีวิตของคนไทยที่แยกกันไม่ออก ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน”


จากการประชุมในเวทีข้าวไทยปีนี้ ที่ได้สะท้อนสถานะปัจจุบันของเศรษฐกิจชุมชน วัฒนธรรม วิถีข้าวและชาวนาที่ต้องได้รับการปรับเปลี่ยนให้ทันต่อสถานการณ์โลก โดยนำเสนอตัวอย่างของความก้าวหน้าของวงการข้าว ตั้งแต่การปลูก การบริหารจัดการการผลิต และการทำธุรกิจ ที่ต่อเนื่องจากข้าว สร้างความเชื่อมั่นว่า “อนาคตข้าว เป็นอนาคตของคนไทย และประเทศไทยในทุกมิติ อย่างแท้จริง” ขอเพียงให้คนไทยมีความร่วมแรง ร่วมใจ รวมพลังเป็นหนึ่ง เพื่อประโยชน์ของประเทศไทย และความสุขของคนไทย











 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้สู่ชุมชน

  วช. เสริมแกร่ง มรภ.อุตรดิตถ์ ผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 IN 1 จากวัสดุเหลือทิ้ง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นักวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ นำองค์ความรู้ และนวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้พื้นที่เป้าหมาย สร้างเกษตรกรต้นแบบ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.สุรินทร์ กว่า 100 ราย แนะใช้ถ่านดูดซับกลิ่น ความชื้น ยกระดับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้ อมให้ยั่งยืน โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนั กงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จากปัญหาเศษวัสดุเหลือทิ้ งทางการเกษตร อาทิ เปลือกทุเรียน เหง้ามันสำปะหลัง แกนข้าวโพด ข้อไม้ไผ่ รวมถึงเศษกิ่งไม้ริมทาง ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิ ดประโยชน์มากนัก  อีกทั้งการจัดการโดยเผาเศษวัสดุ เหลือทิ้งในที่โล่ง ยังเป็นการปล่อยก๊าซเรื อนกระจกและมลสารเข้าสู่ชั้ นบรรยากาศ องค์ความรู้และนวัตกรรมการผลิ ตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 ด้วยวิธีไพโรไลซิส จึงนับเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ ไขประเด็นปัญหาดังกล่าวได้ ขณะนี้นักวิจัยได้ถ่ายทอดองค์ ความรู้และติดตั้งนวัตกรรมแล้ว ประกอบด้วย เตาผลิตถ่านดูดกลิ่นแบบไพโรไลซิ ส เครื่...

เอ็นไอเอ โหมโรง “นิลมังกร” อัดฉีดผลงานนวัตกรรมเด่นพลิกฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด 19 โค้งสุดท้ายก่อนเฟ้นหาสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยภายใต้ “นิลมังกรแคมเปญ”

  สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายจำนวน 18 หน่วยงาน ได้แก่ ศูนย์แบรนด์เคยู คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค 14 มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จัดประกาศผลและมอบรางวัล “ สุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยประจำปี 2564 รอบภูมิภาค ( Thailand INNO BIZ Champion 2021 Regional Round) ภายใต้ “ นิลมังกรแคมเปญ ” ให้กับ 20 ธุรกิจนวัตกรรมจาก 4 ภูมิภาค ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ NIA กล่าวว่า “NIA มีหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุน และสร้างความสามารถการแข่งขันของประเทศด้วยการใช้นวัตกรรม ดังนั้นจึงได้ริเริ่มโครงการสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยระดับภูมิภาค ภายใต้ “ นิลมังกรแคมเปญ ” ขึ้น เพื่อสร้างตัวอย่างการทำธุรกิจนวัตกรรมในภูมิภาคให้คนในพื้นที่ได้เห็นถึงความสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและได้เรียนรู้กระบวนการสร้างธุรกิจนวัตกรรม ผ่านการสื่อสารในรูปแบบของ Edutainment เพื่อให้เป็นที่น่าสนใจ เข้าถึง และเข้าใจกระบวนการสร้างธุรกิ...

2-4 ธันวาคมนี้ พบกันที่ งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024)

สมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ พันธมิตรในภาคตะวันออก และภาครัฐ ร่วมจัดงานสัตว์น้ำเศรษฐกิจยิ่งใหญ่ประจำปี 2567 งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3-4 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมซันไรส์ ลากูน โฮเทลแอนด์กอล์ฟ จ.ฉะเชิงเทรา ภายใต้แนวความคิด “ปรับกลยุทธ์สัตว์น้ำไทย สร้างกำไรทุกภาคส่วน” โดยสมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ สมาคม สหกรณ์ ชมรม กลุ่มแปลงใหญ่ ในภาคตะวันออกก รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ และบริษัทเอกชนผู้ร่วมสนับสนุน ภายใต้มีวัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อเผยแพร่ความรู้ นวัตกรรม การส่งต่อข้อมูลเพื่อให้เกษตรกร สามารถวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ ถ่ายทอดแนวทางการลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่ในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และกระตุ้นให้มีการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น ภายในงานมีการเสวนา และสัมมนาให้ความรู้กับเกษตรกรและผู้ที่สนใจ ตลอดระยะเวลาการจัดงาน ทั้ง 3 วัน รวมถึงมีการจัดแสดงสินค้าของบริษัทและผู้ค้าปัจจัยการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยมีพื้นที่จัดแสดงสินค้ามากกว่า 70 บูท และมีบริษัทสนใจเข้าร่วม...