ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

“ถั่วดอยดอกม่วงก่องกานดา” พรรณไม้ป่าชนิดใหม่ของโลกในเอเชีย ค้นพบโดยนักพฤกษศาสตร์ไทย ม.เกษตรศาสตร์

 

ดอก

นักพฤกษศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ค้นพบ พรรณไม้ป่า “ถั่วดอยดอกม่วงก่องกานดา” ชนิดใหม่ของโลกในเอเชีย ตั้งชื่อเป็นเกียรติ แก่ ดร.ก่องกานดา ชยามฤต ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤกษศาสตร์ของไทย

คณะนักวิจัยไทยและต่างประเทศ ประกอบด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรชัย เงินแสงสรวย ดร.รัมภ์รดา มีบุญญา ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ Prof. Henrik Balslev มหาวิทยาลัยออร์ฮุส ประเทศเดนมาร์ก (Aarhus University, Denmark) ได้ค้นพบพืชชนิดใหม่ของโลกในเอเซีย Dolichos kongkandae R. Meeboonya, Ngerns. & Balslev ชื่อภาษาไทยว่า “ถั่วดอยดอกม่วงก่องกานดา” ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าขุนห้วยแม่กอก (เด่นหญ้าขัด) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นการเพิ่มองค์ความรู้ทางอนุกรมวิธานพืชให้โครงการพรรณพฤกษชาติของประเทศไทย (Flora of Thailand Project)


รองศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรชัย เงินแสงสรวย ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยถึงการค้นพบพืชชนิดใหม่ของโลกในเอเซียว่า “ถั่วดอยดอกม่วงก่องกานดา” เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกของ ดร.รัมภ์รดา มีบุญญา ผู้ได้รับทุนการศึกษาจากโครงการพัฒนากําลังคนด้านวิทยาศาสตร์ (ทุนเรียนดีวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย) สํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เพื่อศึกษาในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกที่ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ซึ่งตนเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก และ ได้ทุนวิจัยจากสถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (KURDI) รหัสโครงการ 3.1-61.61 และ The Carlsberg Foundation ประเทศเดนมาร์ก

รองศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรชัย เงินแสงสรวย ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


ถั่วดอยดอกม่วงก่องกานดา” อยู่ในวงศ์ถั่ว วงศ์ย่อยประดู่ (Leguminosae, Papilionoideae) เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นพันเลื้อย หูใบรูปไข่หรือรูปรีกว้าง ติดทน ใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 3 ใบ ใบย่อยใบปลายรูปไข่ รูปใบหอก หรือรูปไข่กว้าง กว้าง 1.5-4.5 ซม. ยาว 3.5-8 ซม. ปลายแหลมและมีติ่งแหลม โคนมน ขอบเรียบ ใบย่อยคู่ข้างรูปไข่หรือรูปใบหอก ไม่สมมาตร ปลายแหลมและมีติ่งแหลม โคนมนกลม มน หรือกึ่งรูปหัวใจ ขอบเรียบ ช่อดอกคล้ายช่อกระจะ ดอกรูปดอกถั่ว สีม่วงเข้ม เมื่อแห้งสีม่วงแกมสีดำ กลีบดอกมีก้านกลีบ กลีบกลางรูปเกือบกลม ปลายเว้าตื้น มีรยางค์ 2 รยางค์อยู่บริเวณกลางกลีบ กลีบคู่ข้างรูปไข่กลับ ปลายเว้าตื้น มีรยางค์ 1 รยางค์อยู่บริเวณใกล้โคนกลีบ กลีบคู่ล่างรูปขอบขนาน ปลายตัด เกสรเพศผู้ 10 เกสร เชื่อมติดสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งมี 9 เกสร อีกกลุ่มหนึ่งมี 1 เกสร รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ รูปแถบ สีเขียวอ่อน มีขน ก้านยอดเกสรเพศเมียแบน ยอดเกสรเพศเมียเป็นตุ่ม มีขนยาว ผลแบบผลแห้งแตกสองแนว เป็นฝัก แบน รูปขอบขนาน กว้าง 6-8 มม. ยาว 5-7.5 ซม. เมล็ดแบน รูปรีหรือรูปขอบขนาน

ฝัก

ถั่วดอยดอกม่วงก่องกานดา” มักระบุชนิดผิดเป็น “ถั่วเพรียว” Dolichos tenuicaulis (Baker) Craib เนื่องจากมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์หลายอย่างคล้ายกัน โดยเฉพาะเมื่อเป็นตัวอย่างพรรณไม้แห้ง จากการศึกษาลักษณะทางพฤกษศาสตร์และเทียบเคียงกับตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ (type specimens) อย่างละเอียดแล้วพบว่า “ถั่วดอยดอกม่วงก่องกานดา” มีลักษณะเด่นคือ ลำต้นและใบมีขนหนาแน่น หูใบรูปไข่หรือรูปรีกว้าง กลีบดอกสีม่วงเข้ม เมื่อแห้งสีม่วงแกมสีดำ ซึ่งแตกต่างจาก “ถั่วเพรียว” ที่ลำต้นและใบมีขนประปราย หูใบรูปใบหอก รูปรี หรือรูปคล้ายสามเหลี่ยม สีดอกสีชมพูแกมสีม่วงหรือสีชมพูอ่อน เมื่อแห้งสีเหลือง นอกจากนี้พืชทั้ง 2 ชนิดยังมีความยาวช่อดอก ก้านผลย่อย ขนาดของหูใบ หูใบย่อย ใบประดับ กลีบกลาง กลีบคู่ข้าง และกลีบคู่ล่างแตกต่างกันด้วย    

ใบ

นอกจากนี้  รองศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรชัย เงินแสงสรวย ยังกล่าวอีกว่า คำระบุชนิด “kongkandae” และชื่อไทย “ถั่วดอยดอกม่วงก่องกานดา” นั้น ตั้งเพื่อเป็นเกียรติให้แก่ ดร.ก่องกานดา ชยามฤต ผู้เชี่ยวชาญทางพฤกษศาสตร์ ผู้มีคุณูปการต่องานทางพฤกษศาสตร์ไทย อีกทั้งยังเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโทและปริญญาเอกของ รองศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรชัย เงินแสงสรวย และเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วมระดับปริญญาโทและปริญญาเอกของ ดร.รัมภ์รดา มีบุญญา แหล่งที่พบ “ถั่วดอยดอกม่วงก่องกานดา” คือบริเวณพื้นที่เปิดโล่งหรือเขาหินปูนในป่าดิบเขาและป่าเบญจพรรณ ที่สูงจากระดับทะเลปานกลาง 550-2,150 ม. นอกจากพบที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาวแล้ว ยังพบได้ที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ในต่างประเทศพบที่ภูฏาน อินเดีย เมียนมา จีน และลาว ออกดอกและเป็นผลเดือนสิงหาคมถึงธันวาคม

ดร.รัมภ์รดา มีบัญญา ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


ผลงานการค้นพบพืชชนิดใหม่ ของโลก นับเป็นงานวิจัยพื้นฐานที่มีคุณค่าทางวิชาการ เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนและการวิจัยที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มองค์ความรู้ทางอนุกรมวิธานพืชให้โครงการพรรณพฤกษชาติของประเทศไทย (Flora of Thailand Project) ที่ผ่านมา รองศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรชัย เงินแสงสรวย ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ค้นพบพืชชนิดใหม่ของโลก มาแล้วจำนวน 3 ชนิด ได้แก่ ช้างงาเอก (Garcinia nuntasaenii Ngerns. & Suddee) วงศ์ Clusiaceae (Guttiferae) เอื้องเทียนปากสีน้ำตาล (Coelogyne phuhinrongklaensis Ngerns. & Tippayasri) วงศ์ Orchidaceae ทังใบขนภูวัว (Litsea phuwuaensis Ngerns.) วงศ์ Lauraceae และล่าสุด คือ “ถั่วดอยดอกม่วงก่องกานดา” Dolichos kongkandae R. Meeboonya, Ngerns. & Balslev อยู่ในวงศ์ถั่ว วงศ์ย่อยประดู่ (Leguminosae, Papilionoideae)

ถั่วดอยดอกม่วงก่องกานดา” Dolichos kongkandae R. Meeboonya, Ngerns. & Balslev ตีพิมพ์ในวารสาร PhytoKeys 175: 55–65. เรื่อง Dolichos kongkandae sp. nov. and lectotypification of D. fragrans (Leguminosae, Papilionoideae) from Asia ตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ เก็บโดย รัมภ์รดา มีบุญญา และ พีรนันท์ ยอดบ่อพลับ (R. Meeboonya & P. Yodboplub 406) ที่บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าขุนห้วยแม่กอก (เด่นหญ้าขัด) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560





 




 




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

2-4 ธันวาคมนี้ พบกันที่ งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024)

สมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ พันธมิตรในภาคตะวันออก และภาครัฐ ร่วมจัดงานสัตว์น้ำเศรษฐกิจยิ่งใหญ่ประจำปี 2567 งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3-4 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมซันไรส์ ลากูน โฮเทลแอนด์กอล์ฟ จ.ฉะเชิงเทรา ภายใต้แนวความคิด “ปรับกลยุทธ์สัตว์น้ำไทย สร้างกำไรทุกภาคส่วน” โดยสมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ สมาคม สหกรณ์ ชมรม กลุ่มแปลงใหญ่ ในภาคตะวันออกก รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ และบริษัทเอกชนผู้ร่วมสนับสนุน ภายใต้มีวัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อเผยแพร่ความรู้ นวัตกรรม การส่งต่อข้อมูลเพื่อให้เกษตรกร สามารถวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ ถ่ายทอดแนวทางการลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่ในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และกระตุ้นให้มีการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น ภายในงานมีการเสวนา และสัมมนาให้ความรู้กับเกษตรกรและผู้ที่สนใจ ตลอดระยะเวลาการจัดงาน ทั้ง 3 วัน รวมถึงมีการจัดแสดงสินค้าของบริษัทและผู้ค้าปัจจัยการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยมีพื้นที่จัดแสดงสินค้ามากกว่า 70 บูท และมีบริษัทสนใจเข้าร่วม...

นวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้สู่ชุมชน

  วช. เสริมแกร่ง มรภ.อุตรดิตถ์ ผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 IN 1 จากวัสดุเหลือทิ้ง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นักวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ นำองค์ความรู้ และนวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้พื้นที่เป้าหมาย สร้างเกษตรกรต้นแบบ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.สุรินทร์ กว่า 100 ราย แนะใช้ถ่านดูดซับกลิ่น ความชื้น ยกระดับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้ อมให้ยั่งยืน โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนั กงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จากปัญหาเศษวัสดุเหลือทิ้ งทางการเกษตร อาทิ เปลือกทุเรียน เหง้ามันสำปะหลัง แกนข้าวโพด ข้อไม้ไผ่ รวมถึงเศษกิ่งไม้ริมทาง ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิ ดประโยชน์มากนัก  อีกทั้งการจัดการโดยเผาเศษวัสดุ เหลือทิ้งในที่โล่ง ยังเป็นการปล่อยก๊าซเรื อนกระจกและมลสารเข้าสู่ชั้ นบรรยากาศ องค์ความรู้และนวัตกรรมการผลิ ตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 ด้วยวิธีไพโรไลซิส จึงนับเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ ไขประเด็นปัญหาดังกล่าวได้ ขณะนี้นักวิจัยได้ถ่ายทอดองค์ ความรู้และติดตั้งนวัตกรรมแล้ว ประกอบด้วย เตาผลิตถ่านดูดกลิ่นแบบไพโรไลซิ ส เครื่...

FTA ผนึกความร่วมมือภาคี “การลดมลพิษทางอากาศด้วยการหลีกเลี่ยงการเผาในภาคเกษตรกรรม”

  Friends of Thai Agriculture: FTA ผนึกความร่วมมือภาคี จัดประชุมนานาชาติ “แนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาการเผาพืชผลทางการเกษตรในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” กรุงเทพฯ , 1 ตุลาคมที่ผ่านมา - ผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรกรรมกว่า 250 คน รวมถึงสื่อมวลชนไทย 16 แห่ง นักการทูต ผู้กำหนดนโยบาย และผู้นำภาคเอกชน ได้เข้าร่วมงานสัมมนาเรื่อง "การลดมลพิษทางอากาศด้วยการหลีกเลี่ยงการเผาในภาคเกษตรกรรม" Reduction of Air Pollution through Avoidance of Burning in Agriculture’ เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของประเทศไทย นั่นคือการเผาในภาคเกษตรกรรม งานนี้จัดโดย Friends of Thai Agriculture – FTA ร่วมกับ องค์กรนานาชาติหลายแห่ง ได้แก่ สมาคมเกษตรกรรมเยอรมัน ( DLG), GETHAC, GIZ Thailand, Winrock International และศูนย์เครื่องจักรกลเกษตรอย่างยั่งยืนแห่ง UNESCAP โดยงานสัมมนาได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาที่สร้างสรรค์เพื่อลดมลพิษ PM2.5 ที่เกิดจากการเผาข้าว ข้าวโพด และอ้อยในประเทศไทย สถานการณ์การเผาในภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย  การเผาในภาคเกษตรกรรมเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดมลพิษ PM2.5 ซึ่งส่...