ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

จับกระแสแซลมอน หรือ “ปลาส้ม แม็คโคร” ชื่อเรียกไอเท็มท็อปฮิต ในโซเชียลของคนรักสุขภาพ

 


ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19   กระแสคนรักสุขภาพกลายเป็นเทรนด์ยอดฮิตในโซเชียลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  โดยเฉพาะในช่วงที่กลับมาเวิร์คฟอร์มโฮม ทำงานที่บ้านกันอีกครั้งหนึ่ง  จากการสำรวจความนิยมสินค้าในสาขาต่างๆ ของ แม็คโคร พบว่า  อาหารเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอาหารทะเลสดอย่าง ปลาแซลมอน  เป็นที่ต้องการจากลูกค้าในทุกสาขาทั่วประเทศ และได้รับการกล่าวถึงในโลกโซเชียลเป็นอันดับต้นๆ ภายใต้ชื่อเรียกว่า “ปลาส้ม แม็คโคร”


ในช่วงที่ผ่านมา แม็คโคร นำเข้าแซลมอนเป็นอันดับหนึ่งในตลาดค้าปลีกของไทย โดยมาจากแหล่งผลิตชั้นนำที่ปลอดภัย อาทิ  นอร์เวย์ ออสเตรเลีย ชิลี  นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายของรูปแบบการขายมากที่สุดแห่งหนึ่ง นั่นคือ มีการแล่ชิ้นขนาดเล็ก-ขนาดใหญ่ หรือขายทั้งตัวขนาด 4-6 กิโลกรัมต่อตัว  ตามรูปแบบความต้องการของลูกค้าและผู้ประกอบการร้านอาหาร  และยังมีความโดดเด่นในเรื่อง ความสด ใหม่ สะอาด ปลอดภัย จากความสม่ำเสมอในการนำเข้าตรงจากแหล่งผลิตชั้นนำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ด้วยกระบวนการขนส่งที่ควบคุมอุณหภูมิเคร่งครัด ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางภายใต้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อให้สินค้าคงคุณภาพและความสดจนถึงมือลูกค้า


แนวโน้มการเติบโตของ “ปลาแซลมอน” หรือ “ปลาส้ม แม็คโคร” ที่ชาวโซเชี่ยลเรียกกัน นอกจากแหล่งผลิตที่ดี การควบคุมคุณภาพตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ยังมีปัจจัยด้าน “ราคา” ที่จับต้องได้ ทำให้ “ปลาส้ม แม็คโคร” ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง  สาวกปลาส้มทั้งหลายจึงปักหมุดที่นี่ เอาไว้เป็นจุดหมาย เมื่อถึงอาหารเพื่อสุขภาพ


ประกอบกับ คุณค่าทางอาหารของแซลมอน เป็นแหล่งโอเมก้า 3 และโปรตีน  ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ  รวมทั้งรสชาติที่นำไปเป็นวัตถุดิบในการทำชาบู ปิ้งย่าง หรือพลิกแพลงทำเมนูได้หลายอย่าง  ทำเองได้ไม่ยาก ตั้งแต่ส้มตำจนถึงสเต็ก ต่างเป็นเหตุที่ส่งผลให้ “ปลาแซลมอน” ถูกผู้คนพูดถึงอีกครั้ง



ส่วนเรื่องความปลอดภัย แม็คโคร ร่วมมือกับกรมประมง วางแนวปฏิบัติสำหรับการจำหน่ายอาหารทะเลปลอดภัย ป้องกันโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ เพื่อเฝ้าระวังขั้นสูงสุดในการคัดเลือกสินค้าและควบคุมคุณภาพ ตลอดห่วงโซ่การผลิตและจำหน่าย พร้อมรณรงค์บริโภคแบบปรุงสุกเพื่อสุขอนามัยด้วย

 



 





 


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

2-4 ธันวาคมนี้ พบกันที่ งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024)

สมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ พันธมิตรในภาคตะวันออก และภาครัฐ ร่วมจัดงานสัตว์น้ำเศรษฐกิจยิ่งใหญ่ประจำปี 2567 งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3-4 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมซันไรส์ ลากูน โฮเทลแอนด์กอล์ฟ จ.ฉะเชิงเทรา ภายใต้แนวความคิด “ปรับกลยุทธ์สัตว์น้ำไทย สร้างกำไรทุกภาคส่วน” โดยสมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ สมาคม สหกรณ์ ชมรม กลุ่มแปลงใหญ่ ในภาคตะวันออกก รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ และบริษัทเอกชนผู้ร่วมสนับสนุน ภายใต้มีวัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อเผยแพร่ความรู้ นวัตกรรม การส่งต่อข้อมูลเพื่อให้เกษตรกร สามารถวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ ถ่ายทอดแนวทางการลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่ในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และกระตุ้นให้มีการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น ภายในงานมีการเสวนา และสัมมนาให้ความรู้กับเกษตรกรและผู้ที่สนใจ ตลอดระยะเวลาการจัดงาน ทั้ง 3 วัน รวมถึงมีการจัดแสดงสินค้าของบริษัทและผู้ค้าปัจจัยการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยมีพื้นที่จัดแสดงสินค้ามากกว่า 70 บูท และมีบริษัทสนใจเข้าร่วม...

นวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้สู่ชุมชน

  วช. เสริมแกร่ง มรภ.อุตรดิตถ์ ผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 IN 1 จากวัสดุเหลือทิ้ง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นักวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ นำองค์ความรู้ และนวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้พื้นที่เป้าหมาย สร้างเกษตรกรต้นแบบ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.สุรินทร์ กว่า 100 ราย แนะใช้ถ่านดูดซับกลิ่น ความชื้น ยกระดับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้ อมให้ยั่งยืน โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนั กงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จากปัญหาเศษวัสดุเหลือทิ้ งทางการเกษตร อาทิ เปลือกทุเรียน เหง้ามันสำปะหลัง แกนข้าวโพด ข้อไม้ไผ่ รวมถึงเศษกิ่งไม้ริมทาง ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิ ดประโยชน์มากนัก  อีกทั้งการจัดการโดยเผาเศษวัสดุ เหลือทิ้งในที่โล่ง ยังเป็นการปล่อยก๊าซเรื อนกระจกและมลสารเข้าสู่ชั้ นบรรยากาศ องค์ความรู้และนวัตกรรมการผลิ ตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 ด้วยวิธีไพโรไลซิส จึงนับเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ ไขประเด็นปัญหาดังกล่าวได้ ขณะนี้นักวิจัยได้ถ่ายทอดองค์ ความรู้และติดตั้งนวัตกรรมแล้ว ประกอบด้วย เตาผลิตถ่านดูดกลิ่นแบบไพโรไลซิ ส เครื่...

FTA ผนึกความร่วมมือภาคี “การลดมลพิษทางอากาศด้วยการหลีกเลี่ยงการเผาในภาคเกษตรกรรม”

  Friends of Thai Agriculture: FTA ผนึกความร่วมมือภาคี จัดประชุมนานาชาติ “แนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาการเผาพืชผลทางการเกษตรในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” กรุงเทพฯ , 1 ตุลาคมที่ผ่านมา - ผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรกรรมกว่า 250 คน รวมถึงสื่อมวลชนไทย 16 แห่ง นักการทูต ผู้กำหนดนโยบาย และผู้นำภาคเอกชน ได้เข้าร่วมงานสัมมนาเรื่อง "การลดมลพิษทางอากาศด้วยการหลีกเลี่ยงการเผาในภาคเกษตรกรรม" Reduction of Air Pollution through Avoidance of Burning in Agriculture’ เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของประเทศไทย นั่นคือการเผาในภาคเกษตรกรรม งานนี้จัดโดย Friends of Thai Agriculture – FTA ร่วมกับ องค์กรนานาชาติหลายแห่ง ได้แก่ สมาคมเกษตรกรรมเยอรมัน ( DLG), GETHAC, GIZ Thailand, Winrock International และศูนย์เครื่องจักรกลเกษตรอย่างยั่งยืนแห่ง UNESCAP โดยงานสัมมนาได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาที่สร้างสรรค์เพื่อลดมลพิษ PM2.5 ที่เกิดจากการเผาข้าว ข้าวโพด และอ้อยในประเทศไทย สถานการณ์การเผาในภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย  การเผาในภาคเกษตรกรรมเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดมลพิษ PM2.5 ซึ่งส่...