ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

“น้ำอ้อยซินไบโอติก” สจล.เก่ง​ คิดค้น​ เสริมภูมิคุ้มกัน คว้าเหรียญเงิน มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2564

 


ทีมนักศึกษา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง คิดค้นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพยุคใหม่ “น้ำอ้อยซินไบโอติก” ผสมคอลลาเจนและแคลเซียม อุดมประโยชน์ ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตร ล่าสุด คว้าเหรียญเงิน รางวัลประกวดนวัตกรรมสายอุดมศึกษา จากมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2564



ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพกำลังเป็นที่นิยมบริโภคอย่างมาก ประชาชนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือ Functional Beverage ในรูปแบบ Plant Base จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ นอกจากนี้ การหยิบยกวัตถุดิบทางการเกษตรที่สำคัญ หรือที่กำลังประสบปัญหามาใช้ประโยชน์ ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้ทั้งผลิตภัณฑ์และผลิตผลทางการเกษตร เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับคุณประโยชน์สูงสุด


รองศาสตราจารย์ ดร.ปิ่นมณี ขวัญเมือง รองคณบดีกำกับดูแลงานด้านประกันคุณภาพการศึกษาและวิจัย ภาควิชา
ครุศาสตร์เกษตร ในฐานะที่ปรึกษาโครงการหลัก เปิดเผยว่า ทีมวิจัยเล็งเห็นว่า “อ้อย” เป็นพืชที่มีราคาถูก หาได้โดยทั่วไป และยังไม่พบการนำมาแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่างจริงจัง ทั้งที่มีคุณประโยชน์อยู่มาก จึงได้คิดค้นน้ำอ้อยซินไบโอติกขึ้น โดยมีลักษณะคล้ายกับนมเปรี้ยว จุดเด่น คือ เป็นเครื่องดื่มที่มาจากพืชแท้ ๆ ผสมพรีไบโอติก (อาหารของจุลินทรีย์ฯ) เข้าไว้ด้วยกัน และหมักด้วยโพรไบโอติก (จุลินทรีย์แลคโทบาซิลลัส) ทำให้จุลินทรีย์สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้นาน และเข้าไปช่วยปรับสภาพของระบบทางเดินอาหารให้มีสุขภาพที่ดี โดยใช้น้ำอ้อยแท้เป็นส่วนประกอบถึง 50% โดยไม่เติมน้ำตาล อีกทั้งยังมีส่วนผสมจากพืชอื่น ๆ ได้แก่ น้ำแครอท น้ำมันแกว และน้ำสับปะรด นอกจากนี้ยังปราศจากน้ำตาลแลคโตส ดังนั้น ผู้ที่แพ้นมวัวจึงสามารถทานได้ อีกทั้งยังผสมคอลลาเจนและแคลเซียม ทำให้เครื่องดื่มมีคุณประโยชน์สูงสุด โดยน้ำอ้อยซินไบโอติก 1 ขวด ในปริมาณ 100 มิลลิลิตร ประกอบด้วยสารอาหารที่ควรได้รับต่อวันอย่างเพียงพอ สามารถช่วยเรื่องระบบขับถ่าย และ Detox ลำไส้ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย  พร้อมทั้ง เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าทางการเกษตรได้เป็นอย่างดี ซึ่งเกษตรกรชาวไร่อ้อย และภาคเอกชนมีความสนใจให้ทีมวิจัยถ่ายทอดนวัตกรรมให้อีกด้วย


นางสาวกานต์พิชชา สกุนตศรี หนึ่งในสมาชิกทีมวิจัย กล่าวเสริมว่า สำหรับรางวัลระดับดีมาก ในการประกวดนวัตกรรมสายอุดมศึกษา ด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร รางวัลเหรียญเงิน ที่ได้รับจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2564 ที่ผ่านมา ทีมนักวิจัยภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ในการนำเสนอผลงานออกสู่สาธารณะแก่ผู้ที่สนใจนำนวัตกรรมไปต่อยอดเชิงพาณิชย์ และอนาคตยังมองหาวัตถุดิบอื่น ๆ มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ เพื่อเพิ่มทางเลือกในการแปรรูป ให้สามารถยืดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ให้นานยิ่งขึ้น เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบทางการเกษตรในคราวเดียวกัน อย่างไรก็ตาม น้ำอ้อยซินไบโอติก ถือเป็นเครื่องดื่มแนวใหม่ในกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพ (functional beverage) ที่กำลังได้รับความนิยมในสายคนรักสุขภาพ สามารถต่อยอดสู่ภาคอุตสาหกรรม และส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมได้ นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังได้รับรางวัลเหรียญเงิน (ระดับดี) จากผลงานสแน็คกรอบโภชนาการสูงจากผลพลอยได้ของขนุน ซึ่งเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวโดยใช้เมล็ดและซังขนุน มาเสริมด้วยโปรตีนจากถั่วเหลือง และเมล็ดพืชอื่น ๆ เพื่อเป็นขนมที่ให้สารอาหารอย่างครบถ้วนอีกด้วย


ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ให้ความสำคัญต่อการสร้างนักวิจัยและนักประดิษฐ์ เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพขีดความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมในสถาบันการศึกษา โดยส่งเสริมและถ่ายทอดองค์ความรู้ ทักษะและเทคนิคด้านนวัตกรรม กระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้เกิดความเข้าใจและเห็นความสำคัญของการวิจัยและพัฒนา อันเป็นการสร้างและพัฒนาเยาวชนให้เป็นนักวิจัยและนักประดิษฐ์ที่มีคุณภาพ มีศักยภาพในการเติบโตเป็นบุคลากรทางการวิจัยของประเทศต่อไปได้ สำหรับน้ำอ้อยซินไบโอติก ผสมคอลลาเจนและแคลเซียม นับเป็นผลงานสร้างสรรค์ โดยนักเรียน นักศึกษารุ่นใหม่ ที่มีความสนใจแก้ไขปัญหาของประเทศด้วยวิจัยและนวัตกรรม วช.จึงได้มอบรางวัลแก่ทีมวิจัยในครั้งนี้ 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

2-4 ธันวาคมนี้ พบกันที่ งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024)

สมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ พันธมิตรในภาคตะวันออก และภาครัฐ ร่วมจัดงานสัตว์น้ำเศรษฐกิจยิ่งใหญ่ประจำปี 2567 งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3-4 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมซันไรส์ ลากูน โฮเทลแอนด์กอล์ฟ จ.ฉะเชิงเทรา ภายใต้แนวความคิด “ปรับกลยุทธ์สัตว์น้ำไทย สร้างกำไรทุกภาคส่วน” โดยสมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ สมาคม สหกรณ์ ชมรม กลุ่มแปลงใหญ่ ในภาคตะวันออกก รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ และบริษัทเอกชนผู้ร่วมสนับสนุน ภายใต้มีวัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อเผยแพร่ความรู้ นวัตกรรม การส่งต่อข้อมูลเพื่อให้เกษตรกร สามารถวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ ถ่ายทอดแนวทางการลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่ในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และกระตุ้นให้มีการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น ภายในงานมีการเสวนา และสัมมนาให้ความรู้กับเกษตรกรและผู้ที่สนใจ ตลอดระยะเวลาการจัดงาน ทั้ง 3 วัน รวมถึงมีการจัดแสดงสินค้าของบริษัทและผู้ค้าปัจจัยการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยมีพื้นที่จัดแสดงสินค้ามากกว่า 70 บูท และมีบริษัทสนใจเข้าร่วม...

นวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้สู่ชุมชน

  วช. เสริมแกร่ง มรภ.อุตรดิตถ์ ผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 IN 1 จากวัสดุเหลือทิ้ง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นักวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ นำองค์ความรู้ และนวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้พื้นที่เป้าหมาย สร้างเกษตรกรต้นแบบ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.สุรินทร์ กว่า 100 ราย แนะใช้ถ่านดูดซับกลิ่น ความชื้น ยกระดับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้ อมให้ยั่งยืน โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนั กงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จากปัญหาเศษวัสดุเหลือทิ้ งทางการเกษตร อาทิ เปลือกทุเรียน เหง้ามันสำปะหลัง แกนข้าวโพด ข้อไม้ไผ่ รวมถึงเศษกิ่งไม้ริมทาง ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิ ดประโยชน์มากนัก  อีกทั้งการจัดการโดยเผาเศษวัสดุ เหลือทิ้งในที่โล่ง ยังเป็นการปล่อยก๊าซเรื อนกระจกและมลสารเข้าสู่ชั้ นบรรยากาศ องค์ความรู้และนวัตกรรมการผลิ ตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 ด้วยวิธีไพโรไลซิส จึงนับเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ ไขประเด็นปัญหาดังกล่าวได้ ขณะนี้นักวิจัยได้ถ่ายทอดองค์ ความรู้และติดตั้งนวัตกรรมแล้ว ประกอบด้วย เตาผลิตถ่านดูดกลิ่นแบบไพโรไลซิ ส เครื่...

FTA ผนึกความร่วมมือภาคี “การลดมลพิษทางอากาศด้วยการหลีกเลี่ยงการเผาในภาคเกษตรกรรม”

  Friends of Thai Agriculture: FTA ผนึกความร่วมมือภาคี จัดประชุมนานาชาติ “แนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาการเผาพืชผลทางการเกษตรในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” กรุงเทพฯ , 1 ตุลาคมที่ผ่านมา - ผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรกรรมกว่า 250 คน รวมถึงสื่อมวลชนไทย 16 แห่ง นักการทูต ผู้กำหนดนโยบาย และผู้นำภาคเอกชน ได้เข้าร่วมงานสัมมนาเรื่อง "การลดมลพิษทางอากาศด้วยการหลีกเลี่ยงการเผาในภาคเกษตรกรรม" Reduction of Air Pollution through Avoidance of Burning in Agriculture’ เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของประเทศไทย นั่นคือการเผาในภาคเกษตรกรรม งานนี้จัดโดย Friends of Thai Agriculture – FTA ร่วมกับ องค์กรนานาชาติหลายแห่ง ได้แก่ สมาคมเกษตรกรรมเยอรมัน ( DLG), GETHAC, GIZ Thailand, Winrock International และศูนย์เครื่องจักรกลเกษตรอย่างยั่งยืนแห่ง UNESCAP โดยงานสัมมนาได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาที่สร้างสรรค์เพื่อลดมลพิษ PM2.5 ที่เกิดจากการเผาข้าว ข้าวโพด และอ้อยในประเทศไทย สถานการณ์การเผาในภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย  การเผาในภาคเกษตรกรรมเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดมลพิษ PM2.5 ซึ่งส่...