ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ผลักดัน เปลี่ยนเกษียณเป็นพลัง เฟส 2 หนุนผู้สูงวัยสู่สังคมเรียนรู้ตลอดชีวิต ครอบคลุมจ้างงาน สร้างอาชีพและรายได้

 

เมื่อวันที่่​ 23 ก.พ. 2565​ ศ.พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แถลงผลสำเร็จโครงการ Quick Wins “เปลี่ยนเกษียณเป็นพลัง” ปีที่ผ่านมา พร้อมผลักดันโครงการสู่เฟส 2 ให้ผู้สูงวัยใช้พลังขับเคลื่อนประเทศด้านต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมจัดเสวนา Forum Talk ให้เหล่าไอดอลวัยเก๋า เข้ารับโล่บุคคลวัยเกษียณ พร้อมตีแผ่แง่คิดการใช้ชีวิตอย่างมีพลัง โดยมี รศ.พิเศษ ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการ และโฆษกกระทรวงกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เกียรติเข้าร่วม ณ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม


ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า ปัจจุบันผู้สูงอายุมีปริมาณกว่าร้อยละ 12 ของประชากรไทย และมีแนวโน้มที่โครงสร้างผู้สูงวัยจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่วัยเกษียณที่ดีพอ จะส่งผลให้สภาพจิตใจและคุณภาพชีวิตเสื่อมถอยลง หากพวกเรามาร่วมกันส่งเสริมคุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้สูงวัย ให้แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ห่างไกลจากภาวะซึมเศร้าและติดบ้าน และเห็นคุณค่าของตัวเอง โดยไม่ปล่อยให้ร่างกายที่ร่วงโรยมาบั่นทอนจิตใจ โดยกลุ่มคนเหล่านี้ยังมีความรู้ ความคิด และประสบการณ์ชีวิต ถ้าเราสามารถนำสิ่งเหล่านี้มาใช้ร่วมกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญหรือมีทักษะด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ จะเกิดความลงตัวในหลากหลายด้าน ทั้งการเกิดทักษะใหม่ มีการปรับรูปแบบกระบวนการคิดและวิธีการใช้ชีวิตต่าง ๆ ซึ่งเราอยากเห็นความสุขเกิดขึ้นในทุก ๆ ช่วงวัย สามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้ โดย อว.มุ่งมั่นผลักดันให้โครงการ “เปลี่ยนเกษียณเป็นพลัง” เป็นวาระแห่งชาติ เป็นโครงการที่มีทั้งความสนุก และความรู้ทางวิชาการ เพื่อพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ให้กลุ่มคนเหล่านี้เป็นเป็นคนสูงวัยที่มีคุณภาพ พร้อมก้าวสู่การใช้ชีวิตและช่วยเหลือสังคมในวัยเกษียณได้อย่างมีพลัง



รมว.อว. กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ วช.สร้างกลไกการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย โดยสนับสนุนทุนวิจัยและขับเคลื่อนผลงานวิจัยพร้อมใช้ ในประเด็นเรื่อง “การเปลี่ยนเกษียณเป็นพลัง” : ผู้สูงวัยมีทักษะในการประกอบอาชีพ เพื่อเปิดโอกาสและสร้างแรงจูงใจให้วัยเกษียณหรือสูงอายุเข้าสู่สังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ให้เห็นผลสำเร็จโดยเร็ว ครอบคลุมการจ้างงาน การสร้างความรู้ภาคเกษตรสมัยใหม่ เสริมทักษะการดำรงชีวิตและอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ที่เหมาะสมกับศักยภาพ การป้องกันโรค สร้างเสริมและฟื้นฟูสุขภาพกายใจ พร้อมจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นมิตร รวมทั้ง การเตรียมหลักประกันทางสังคมที่สอดคล้องกับความจำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต โดยมีสถาบันการศึกษาร่วมดำเนินการ จำนวน 10 สถาบัน ได้แก่ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์



ปัจจุบัน โครงการ “เปลี่ยนเกษียณเป็นพลัง” มีผู้สูงอายุเข้าร่วมแล้วทั้งสิ้น 19,000 คน จาก 5 ภูมิภาค 26 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง น่าน สกลนคร ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา ร้อยเอ็ด สุรินทร์ อุบลราชธานี ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา พิจิตร สงขลา สตูล พัทลุง ชุมพร และกระบี่ ภายใต้ความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมกิจการผู้สูงอายุ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น ทำให้เกิดเป็นผลสำเร็จในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการส่งเสริมการตลาดออนไลน์ เพื่อพัฒนาทักษะเทคโนโลยีและสร้างธุรกิจออนไลน์สำหรับผู้สูงวัยในยุคดิจิทัล ด้านการเสริมสร้างพัฒนาทักษะอาชีพ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ ในการเตรียมความพร้อมสำหรับประกอบอาชีพในยุควิถีชีวิตใหม่ นอกจากนี้ ยังได้ขยายขอบเขตการดำเนินงานไปอีก 5 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดชุมพร  จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดลำปาง และจังหวัดสุราษฎร์ธานี


โดยในเฟสที่ 2 จะมุ่งขยายผลให้ครอบคลุม โดยเพิ่มจำนวนผู้สูงอายุที่เข้าร่วมโครงการ หนุนเสริมทีมสร้างโอกาส เพื่อเพิ่มความยั่งยืน และในปี 2566 จะผลักดันให้เกิดผลมากขึ้น จากการเพิ่มทักษะอื่น ๆ อาทิ การพัฒนาศักยภาพ การขับเคลื่อนวิสาหกิจชุมชน และการสร้างอาชีพใหม่สำหรับผู้สูงวัย อีกทั้ง วช.จะได้จัดทำศูนย์ข้อมูลและนวัตกรรมในการดูแลผู้สูงอายุแห่งชาติ (National Information and Innovation Center for Elderly Care) เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลสำหรับแลกเปลี่ยน สนับสนุนข้อมูล องค์ความรู้ และหลักสูตรในการดูแลผู้สูงอายุจากนักวิจัย มหาวิทยาลัยและหน่วยงานภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานกลางคลังข้อมูลสุขภาพระดับกระทรวงหรือระดับประเทศ


ด้าน ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า กิจกรรมเสวนา FORUM TALK “เปลี่ยนเกษียณเป็นพลัง” ในวันนี้ วช. ได้รับเกียรติจาก ศ.พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธานมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้บุคคลวัยเกษียณ (Idol วัยเก๋า) ที่มีพลังในการใช้ชีวิตทั้ง 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการเสริมสร้างทักษะอาชีพ มอบแก่ คุณยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์ , ด้านการดูแลสุขภาพ มอบแก่ คุณอัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ , ด้านส่งเสริมทักษะดิจิทัล มอบแก่ คุณมนัสวิน นันทเสน (ติ๊ก ชีโร่) , ด้านสานสัมพันธ์ต่างวัย มอบแก่ คุณนวลนงค์ จามิกรณ์ และด้านจิตอาสาเพื่อสังคม มอบแก่ คุณเนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ มาร่วมสร้างและถ่ายทอดพลังบวกให้กับสังคมผ่านการเสวนา พร้อมด้วยได้รับเกียรติจาก คุณสันติ ลุนเผ่ ศิลปินแห่งชาติ และ รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข ผู้ควบคุมการแสดงขับร้องเพลงประสานเสียง “วงปล่อยแก่” มาร่วมแสดงพลังดนตรีของคนวัยเก๋า ซึ่งล้วนเป็นบุคคลวัยเกษียณที่มีการพัฒนารูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขและมีสีสันอยู่ตลอดเวลา สร้างแรงกระเพื่อมอย่างต่อเนื่อง และเป็นแบบอย่างของคนวัยเกษียณ ที่จะร่วมขับเคลื่อนประเทศอย่างเต็มกำลังความสามารถ  

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้สู่ชุมชน

  วช. เสริมแกร่ง มรภ.อุตรดิตถ์ ผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 IN 1 จากวัสดุเหลือทิ้ง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นักวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ นำองค์ความรู้ และนวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้พื้นที่เป้าหมาย สร้างเกษตรกรต้นแบบ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.สุรินทร์ กว่า 100 ราย แนะใช้ถ่านดูดซับกลิ่น ความชื้น ยกระดับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้ อมให้ยั่งยืน โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนั กงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จากปัญหาเศษวัสดุเหลือทิ้ งทางการเกษตร อาทิ เปลือกทุเรียน เหง้ามันสำปะหลัง แกนข้าวโพด ข้อไม้ไผ่ รวมถึงเศษกิ่งไม้ริมทาง ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิ ดประโยชน์มากนัก  อีกทั้งการจัดการโดยเผาเศษวัสดุ เหลือทิ้งในที่โล่ง ยังเป็นการปล่อยก๊าซเรื อนกระจกและมลสารเข้าสู่ชั้ นบรรยากาศ องค์ความรู้และนวัตกรรมการผลิ ตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 ด้วยวิธีไพโรไลซิส จึงนับเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ ไขประเด็นปัญหาดังกล่าวได้ ขณะนี้นักวิจัยได้ถ่ายทอดองค์ ความรู้และติดตั้งนวัตกรรมแล้ว ประกอบด้วย เตาผลิตถ่านดูดกลิ่นแบบไพโรไลซิ ส เครื่...

เอ็นไอเอ โหมโรง “นิลมังกร” อัดฉีดผลงานนวัตกรรมเด่นพลิกฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด 19 โค้งสุดท้ายก่อนเฟ้นหาสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยภายใต้ “นิลมังกรแคมเปญ”

  สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายจำนวน 18 หน่วยงาน ได้แก่ ศูนย์แบรนด์เคยู คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค 14 มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จัดประกาศผลและมอบรางวัล “ สุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยประจำปี 2564 รอบภูมิภาค ( Thailand INNO BIZ Champion 2021 Regional Round) ภายใต้ “ นิลมังกรแคมเปญ ” ให้กับ 20 ธุรกิจนวัตกรรมจาก 4 ภูมิภาค ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ NIA กล่าวว่า “NIA มีหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุน และสร้างความสามารถการแข่งขันของประเทศด้วยการใช้นวัตกรรม ดังนั้นจึงได้ริเริ่มโครงการสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยระดับภูมิภาค ภายใต้ “ นิลมังกรแคมเปญ ” ขึ้น เพื่อสร้างตัวอย่างการทำธุรกิจนวัตกรรมในภูมิภาคให้คนในพื้นที่ได้เห็นถึงความสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและได้เรียนรู้กระบวนการสร้างธุรกิจนวัตกรรม ผ่านการสื่อสารในรูปแบบของ Edutainment เพื่อให้เป็นที่น่าสนใจ เข้าถึง และเข้าใจกระบวนการสร้างธุรกิ...

2-4 ธันวาคมนี้ พบกันที่ งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024)

สมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ พันธมิตรในภาคตะวันออก และภาครัฐ ร่วมจัดงานสัตว์น้ำเศรษฐกิจยิ่งใหญ่ประจำปี 2567 งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3-4 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมซันไรส์ ลากูน โฮเทลแอนด์กอล์ฟ จ.ฉะเชิงเทรา ภายใต้แนวความคิด “ปรับกลยุทธ์สัตว์น้ำไทย สร้างกำไรทุกภาคส่วน” โดยสมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ สมาคม สหกรณ์ ชมรม กลุ่มแปลงใหญ่ ในภาคตะวันออกก รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ และบริษัทเอกชนผู้ร่วมสนับสนุน ภายใต้มีวัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อเผยแพร่ความรู้ นวัตกรรม การส่งต่อข้อมูลเพื่อให้เกษตรกร สามารถวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ ถ่ายทอดแนวทางการลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่ในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และกระตุ้นให้มีการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น ภายในงานมีการเสวนา และสัมมนาให้ความรู้กับเกษตรกรและผู้ที่สนใจ ตลอดระยะเวลาการจัดงาน ทั้ง 3 วัน รวมถึงมีการจัดแสดงสินค้าของบริษัทและผู้ค้าปัจจัยการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยมีพื้นที่จัดแสดงสินค้ามากกว่า 70 บูท และมีบริษัทสนใจเข้าร่วม...