ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เชื่อมโยงผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมสู่การตลาดท่องเที่ยว​"Agro​ Journey​ Hunter​ : เส้นทางวิสาหกิจชุมชนเกษตรอุตสาหกรรมสู่การท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์"


กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จัดงานพิธีปิดกิจกรรมการพัฒนาเชื่อมโยงผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมสู่การตลาดท่องเที่ยว (Agro Journey Hunter) พร้อมประกาศผลสุดยอดชุมชนต้นแบบ SE Hero ยกระดับผู้ประกอบการวิสาหชุมชน/OTOP ก้าวสู่ความสำเร็จเพื่อต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรอุตสาหกรรม ร่วมส่งเสริมเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน



เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ; กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จัดงานพิธีปิดกิจกรรมการพัฒนาเชื่อมโยงผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมสู่การตลาดท่องเที่ยว “Agro Journey Hunter : เส้นทางวิสาหกิจชุมชนเกษตรอุตสาหกรรม สู่การท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ ” กิจกรรมพัฒนาและยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน/OTOP ให้เกิดการสร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่ชุมชน ต่อยอดออกมาเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงเกษตรอุตสาหกรรมเชื่อมโยงสู่การท่องเที่ยวชุมชนเพื่อเฟ้นหาต้นแบบชุมชนเกษตรอุตสาหกรรมวิถีชุมชนที่มีศักยภาพและพร้อมปรับตัวเข้าสู่ตลาดการขายช่องทางออนไลน์ในปัจจุบัน โดยช่วงคิกออฟกิจกรรมได้มีผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน/ OTOP กว่า 200 ราย จากทั่วประเทศที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมบ่มเพาะและดึงศักยภาพก่อนการแข่งขันรอบแรกที่คัดเลือกผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน/ OTOP จนได้ผู้เข้ารอบทั้งหมด 60 ราย



โดยแบ่งออกเป็น 5 ทีมจากทุกภูมิภาค ได้แก่ ทีม Green Diamond เพชร(สม)บูรณ์ จากจังหวัดเพชรบูรณ์, ทีม ME-NARA ชุมชนคนใต้ จากจังหวัดนราธิวาส, ทีมชวนชมนครคง จากจังหวัดนครราชสีมา, ทีมสุขสุราษฎร์ จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี, และ ทีมเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนสร้างป่า สร้างรายได้ จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยทั้ง 5 ทีมจะได้ผ่านกระบวนการพัฒนาศักยภาพอย่างเข้มข้นกับเหล่า Mentor ผู้เชี่ยวชาญประจำทีมเพื่อพัฒนาต่อยอดและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เชิงเกษตรอุตสาหกรรมออกมาเป็นคอลเลคชั่นสินค้าที่สะท้อนภูมิปัญญา อัตลักษณ์ และวัฒนธรรมท้องถิ่นของแต่ละชุมชนพร้อมเชื่อมโยงสู่เส้นทางท่องเที่ยวชุมชน ปิดท้ายกิจกรรมด้วยการคัดเลือกสุดยอดต้นแบบชุมชนเกษตรอุตสาหกรรมวิถีชุมชน SE Hero (Social Enterprise Hero) ในพิธีปิดกิจกรรมครั้งนี้ โดยทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศสุดยอดชุมชนต้นแบบ ได้แก่ ทีมเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนสร้างป่า สร้างรายได้ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่วนรางวัล Popular Vote ได้แก่ ทีมชวนชมนครคง จากจังหวัดนครราชสีมา



ดร.อริยาพร อำนรรฆสรเดช ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า “จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ Covid-19 ที่อยู่กับคนทั่วโลกมาจนเข้าปีที่ 3 แล้ว หลายภาคส่วนทั้งในประเทศและในระดับโลกต่างก็ได้รับผลกระทบ จึงเป็นวาระสำคัญระดับประเทศแล้วที่ทุกคนจะต้องมีการตื่นตัวต่อการพัฒนาและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เพื่อไม่ให้เกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเหล่าผู้ประกอบการระดับชุมชนที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศล้วนมีบทบาทสำคัญในภาค “เกษตรอุตสาหกรรม” เป็นเสมือนกำลังหลักในการช่วยขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากจนนำไปสู่การเติบโตของเศรษฐกิจระดับประเทศได้อย่างยั่งยืน  ฉะนั้นการสนับสนุนผู้ประกอบการในท้องถิ่นทั่วประเทศให้เกิดการเรียนรู้ และเสริมสร้างความเข้าใจที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นต่อการพัฒนาสินค้าและบริการในปัจจุบันที่เศรษฐกิจรูปแบบออนไลน์เข้ามามีบทบาทจึงมีความสำคัญอย่างมาก 


หากศึกษาจากพฤติกรรมการเลือกเสพสื่อฯ รวมทั้งการใช้จ่ายซื้อสินค้าของคนในยุคปัจจุบันไม่ว่าจะวัยรุ่นไปจนถึงคนสูงอายุในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้จะสังเกตได้ว่า คนส่วนใหญ่เริ่มหันมาใช้ Online Platform ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ แทนการเข้าสังคมแบบเจอหน้า หรือ การออกไปซื้อของตามร้านค้า วัดได้จากยอดการเปิดบัญชีของ Social media ที่พุ่งสูงขึ้น อีกทั้งยอดสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น  ทำให้เรา “กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม” ในฐานะตัวแทนภาคเกษตรอุตสาหกรรมจึงเล็งเห็นถึงโอกาสที่จะยกระดับผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนและผลิตภัณฑ์ชุมชนเชิงเกษตรอุตสาหกรรมพร้อมกับการเชื่อมโยงสู่การตลาดท่องเที่ยว และยินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายสามารถพัฒนาศักยภาพ เสริมองค์ความรู้ให้มีความพร้อมในการแข่งขันบนตลาดออนไลน์ยุคปัจจุบัน จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรมการพัฒนาเชื่อมโยงผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมสู่การตลาดท่องเที่ยว “AGRO JOURNEY HUNTER : เส้นทางวิสาหกิจชุมชนเกษตรอุตสาหกรรมสู่การท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ ” ในครั้งนี้


ทั้งนี้ในช่วงการดำเนินกิจกรรมได้มีโอกาสเห็นกระบวนการดำเนินงานตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการบ่มเพาะผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน/OTOP การลงพื้นที่ไปสัมผัสประสบการณ์ของต้นกำเนิดและแหล่งผลิตผลิตภัณฑ์จากชุมชน ตลอดจนได้เรียนรู้และมองเห็นถึงศักยภาพทั้งในตัวพื้นที่ชุมชนและในตัวของทีมผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน/OTOP ทั้ง 5 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาจนถึงรอบนี้ 

จึงหวังว่า การดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้จะช่วยปลุกศักยภาพ และเป็นแนวทางในการต่อยอดพัฒนาสินค้าและบริการให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน/OTOP รวมทั้งเป็นการส่งเสริมและเชื่อมโยงกับการตลาดท่องเที่ยว สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพื้นที่ชุมชน จนสามารถดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ และกลุ่มผู้สนใจผลิตภัณฑ์จากชุมชน ทำให้เกิดเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียนขึ้นในชุมชน สามารถสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการชุมชนและกระจายต่อไปยังคนในชุมชนทุกครัวเรือนได้อย่างยั่งยืน 



ท้ายที่สุดนี้ ต้องขอขอบคุณ ทีมงานกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม คุณสมศักดิ์ บุญคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โลเคิล อไลค์ จำกัด ที่มาร่วมเป็นที่ปรึกษาตลอดการดำเนินกิจกรรม พร้อมทั้งเหล่า Mentor ของทีมผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน/OTOP ที่เข้ารอบทั้ง 5 ทีมที่ได้ร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพให้กับชุมชนได้สร้างสรรค์คอลเลคชั่นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและสวยงามอย่างที่ทุกท่านได้ชมภายในงานนี้"

นอกจากนี้ยังภายในงานยังมีการให้ความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมเสวนาในหัวข้อ “มุมมองผลิตภัณฑ์ชุมชนเชิงเกษตรที่เชื่อมโยงกระแสรักษ์โลกและทิศทางคอนเทนต์ท่องเที่ยวชุมชนในสื่อออนไลน์” นำทีมวิทยากร โดย คุณศิรพันธุ์ วัฒนจินดา ผู้ก่อตั้ง ECO LIFE , คุณสมศักดิ์ บุญคำ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Local Alike และคุณชนินทร จิตปรีดา จาก Wongnai Travel ร่วมพูดคุย และรวมถึงกิจกรรมโชว์เคสผลงานผลิตภัณฑ์ของทั้ง 5 ทีม พร้อมจัดแสดงให้กับผู้ที่มาร่วมงานได้ชมกัน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์     






ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้สู่ชุมชน

  วช. เสริมแกร่ง มรภ.อุตรดิตถ์ ผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 IN 1 จากวัสดุเหลือทิ้ง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นักวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ นำองค์ความรู้ และนวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้พื้นที่เป้าหมาย สร้างเกษตรกรต้นแบบ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.สุรินทร์ กว่า 100 ราย แนะใช้ถ่านดูดซับกลิ่น ความชื้น ยกระดับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้ อมให้ยั่งยืน โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนั กงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จากปัญหาเศษวัสดุเหลือทิ้ งทางการเกษตร อาทิ เปลือกทุเรียน เหง้ามันสำปะหลัง แกนข้าวโพด ข้อไม้ไผ่ รวมถึงเศษกิ่งไม้ริมทาง ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิ ดประโยชน์มากนัก  อีกทั้งการจัดการโดยเผาเศษวัสดุ เหลือทิ้งในที่โล่ง ยังเป็นการปล่อยก๊าซเรื อนกระจกและมลสารเข้าสู่ชั้ นบรรยากาศ องค์ความรู้และนวัตกรรมการผลิ ตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 ด้วยวิธีไพโรไลซิส จึงนับเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ ไขประเด็นปัญหาดังกล่าวได้ ขณะนี้นักวิจัยได้ถ่ายทอดองค์ ความรู้และติดตั้งนวัตกรรมแล้ว ประกอบด้วย เตาผลิตถ่านดูดกลิ่นแบบไพโรไลซิ ส เครื่...

เอ็นไอเอ โหมโรง “นิลมังกร” อัดฉีดผลงานนวัตกรรมเด่นพลิกฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด 19 โค้งสุดท้ายก่อนเฟ้นหาสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยภายใต้ “นิลมังกรแคมเปญ”

  สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายจำนวน 18 หน่วยงาน ได้แก่ ศูนย์แบรนด์เคยู คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค 14 มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จัดประกาศผลและมอบรางวัล “ สุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยประจำปี 2564 รอบภูมิภาค ( Thailand INNO BIZ Champion 2021 Regional Round) ภายใต้ “ นิลมังกรแคมเปญ ” ให้กับ 20 ธุรกิจนวัตกรรมจาก 4 ภูมิภาค ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ NIA กล่าวว่า “NIA มีหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุน และสร้างความสามารถการแข่งขันของประเทศด้วยการใช้นวัตกรรม ดังนั้นจึงได้ริเริ่มโครงการสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยระดับภูมิภาค ภายใต้ “ นิลมังกรแคมเปญ ” ขึ้น เพื่อสร้างตัวอย่างการทำธุรกิจนวัตกรรมในภูมิภาคให้คนในพื้นที่ได้เห็นถึงความสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและได้เรียนรู้กระบวนการสร้างธุรกิจนวัตกรรม ผ่านการสื่อสารในรูปแบบของ Edutainment เพื่อให้เป็นที่น่าสนใจ เข้าถึง และเข้าใจกระบวนการสร้างธุรกิ...

2-4 ธันวาคมนี้ พบกันที่ งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024)

สมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ พันธมิตรในภาคตะวันออก และภาครัฐ ร่วมจัดงานสัตว์น้ำเศรษฐกิจยิ่งใหญ่ประจำปี 2567 งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3-4 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมซันไรส์ ลากูน โฮเทลแอนด์กอล์ฟ จ.ฉะเชิงเทรา ภายใต้แนวความคิด “ปรับกลยุทธ์สัตว์น้ำไทย สร้างกำไรทุกภาคส่วน” โดยสมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ สมาคม สหกรณ์ ชมรม กลุ่มแปลงใหญ่ ในภาคตะวันออกก รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ และบริษัทเอกชนผู้ร่วมสนับสนุน ภายใต้มีวัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อเผยแพร่ความรู้ นวัตกรรม การส่งต่อข้อมูลเพื่อให้เกษตรกร สามารถวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ ถ่ายทอดแนวทางการลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่ในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และกระตุ้นให้มีการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น ภายในงานมีการเสวนา และสัมมนาให้ความรู้กับเกษตรกรและผู้ที่สนใจ ตลอดระยะเวลาการจัดงาน ทั้ง 3 วัน รวมถึงมีการจัดแสดงสินค้าของบริษัทและผู้ค้าปัจจัยการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยมีพื้นที่จัดแสดงสินค้ามากกว่า 70 บูท และมีบริษัทสนใจเข้าร่วม...