ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

อว. สรุป ทั่วโลกฉีดวัคซีนไปแล้ว 42.2 ล้านโดส เพิ่มขึ้นวันละ 2.43 ล้าน คนอเมริกันได้รับแล้วมากที่สุด 14.3 ล้านโดส ในขณะที่คนอิสราเอลหนึ่งในสี่คนฉีดวัคซีนแล้ว

 


เมื่อวันที่18 มกราคม 2564 ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รายงานผลการประมวลข้อมูลเกี่ยวกับการใช้วัคซีนโควิด-19 ว่า “ขณะนี้ได้มีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 42.2 ล้านโดส ใน 51 ประเทศทั่วโลก เพิ่มขึ้นวันละ 2.43 ล้าน คนอเมริกันได้รับแล้วมากที่สุด 14.3  ล้านโดส ในขณะที่คนอิสราเอลหนึ่งในสี่คนฉีดวัคซีนแล้ว"

ตามที่ได้มีการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างรวดเร็วมาก และเริ่มมีการใช้วัคซีนในประชากรตั้งแต่ในเดือนธันวาคม 2563 เป็นต้นมา ในขณะนี้ 51 ประเทศได้เริ่มฉีดวัคซีนแล้ว รวมกันประมาณ 42.2 ล้านโดส จากหลายบริษัทผู้ผลิต


สถิติสำคัญเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ณ วันที่ 18 มกราคม 2564 มีดังนี้

 

จำนวนที่ฉีดแล้ว (โดส)  : 42.0 ล้านโดส

จำนวนประเทศ : 51

อัตราการฉีด (โดสต่อวัน) : 2.43 ล้านโดสต่อวัน

ยอดการจองวัคซีนทั่วโลก (โดส) : 8,330 ล้านโดส

 

ประเทศสหรัฐอเมริกา

  เริ่มฉีด : 14 ธันวาคม 2563

  ฉีดแล้ว (โดส) : 14.3 ล้านโดส

  คนที่ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว : 1.8 ล้านคน

  อัตราการฉีด (โดสต่อวัน) : 898,410


ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วจำนวนมากที่สุด 10 อันดับแรก

1. สหรัฐอเมริกา (14.31 ล้านโดส)

2. จีน (10 ล้านโดส)

3. สหราชอาณาจักร (4.31 ล้านโดส)

4. อิสราเอล (2.35 ล้านโดส)

5. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (1.88 ล้านโดส)

6. รัสเซีย (1.5 ล้านโดส)

7. อิตาลี (1.15 ล้านโดส)

8. เยอรมนี (1.05 ล้านโดส)

9. สเปน (0.77 ล้านโดส)

10. ตุรกี (0.71 ล้านโดส)


ประเทศที่ฉีดวัคซีน (สัดส่วนต่อประชากรสูงที่สุด 10 อันดับแรก)

1. อิสราเอล (25.91%)

2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (17.52%)

3. บาห์เรน (9.54%)

4. สหราชอาณาจักร (6.45%)

5. สหรัฐอเมริกา (4.36%)

6. เดนมาร์ก (2.88%)

7. สโลวาเนีย (2.00%)

8. มอลตา (1.92%)

9. อิตาลี (1.90%)

10. ลิทัวเนีย (1.69%)


จำนวนการจัดหาวัคซีนทั่วโลก (เฉพาะข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ)

1. สหรัฐอเมริกา (1,010 ล้านโดส)

2. สหภาพยุโรป (1,405 ล้านโดส)

3. สหราชอาณาจักร (367 ล้านโดส)

4. จีน (300 ล้านโดส)

5. โครงการ COVAX (700 ล้านโดส)

6. อินเดีย (2,200 ล้านโดส)

7. ญี่ปุ่น (290 ล้านโดส)

8. เม็กซิโก (210 ล้านโดส)

9. ออสเตรเลีย (115 ล้านโดส)

10. รัสเซีย (160 ล้านโดส)

11. เกาหลีใต้ (84 ล้านโดส)

12. กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง (75 ล้านโดส)

13. ประเทศอื่นๆ ที่เหลือ (266 ล้านโดส)




แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker

ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)




 








 


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

2-4 ธันวาคมนี้ พบกันที่ งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024)

สมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ พันธมิตรในภาคตะวันออก และภาครัฐ ร่วมจัดงานสัตว์น้ำเศรษฐกิจยิ่งใหญ่ประจำปี 2567 งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3-4 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมซันไรส์ ลากูน โฮเทลแอนด์กอล์ฟ จ.ฉะเชิงเทรา ภายใต้แนวความคิด “ปรับกลยุทธ์สัตว์น้ำไทย สร้างกำไรทุกภาคส่วน” โดยสมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ สมาคม สหกรณ์ ชมรม กลุ่มแปลงใหญ่ ในภาคตะวันออกก รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ และบริษัทเอกชนผู้ร่วมสนับสนุน ภายใต้มีวัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อเผยแพร่ความรู้ นวัตกรรม การส่งต่อข้อมูลเพื่อให้เกษตรกร สามารถวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ ถ่ายทอดแนวทางการลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่ในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และกระตุ้นให้มีการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น ภายในงานมีการเสวนา และสัมมนาให้ความรู้กับเกษตรกรและผู้ที่สนใจ ตลอดระยะเวลาการจัดงาน ทั้ง 3 วัน รวมถึงมีการจัดแสดงสินค้าของบริษัทและผู้ค้าปัจจัยการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยมีพื้นที่จัดแสดงสินค้ามากกว่า 70 บูท และมีบริษัทสนใจเข้าร่วม...

นวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้สู่ชุมชน

  วช. เสริมแกร่ง มรภ.อุตรดิตถ์ ผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 IN 1 จากวัสดุเหลือทิ้ง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นักวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ นำองค์ความรู้ และนวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้พื้นที่เป้าหมาย สร้างเกษตรกรต้นแบบ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.สุรินทร์ กว่า 100 ราย แนะใช้ถ่านดูดซับกลิ่น ความชื้น ยกระดับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้ อมให้ยั่งยืน โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนั กงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จากปัญหาเศษวัสดุเหลือทิ้ งทางการเกษตร อาทิ เปลือกทุเรียน เหง้ามันสำปะหลัง แกนข้าวโพด ข้อไม้ไผ่ รวมถึงเศษกิ่งไม้ริมทาง ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิ ดประโยชน์มากนัก  อีกทั้งการจัดการโดยเผาเศษวัสดุ เหลือทิ้งในที่โล่ง ยังเป็นการปล่อยก๊าซเรื อนกระจกและมลสารเข้าสู่ชั้ นบรรยากาศ องค์ความรู้และนวัตกรรมการผลิ ตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 ด้วยวิธีไพโรไลซิส จึงนับเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ ไขประเด็นปัญหาดังกล่าวได้ ขณะนี้นักวิจัยได้ถ่ายทอดองค์ ความรู้และติดตั้งนวัตกรรมแล้ว ประกอบด้วย เตาผลิตถ่านดูดกลิ่นแบบไพโรไลซิ ส เครื่...

FTA ผนึกความร่วมมือภาคี “การลดมลพิษทางอากาศด้วยการหลีกเลี่ยงการเผาในภาคเกษตรกรรม”

  Friends of Thai Agriculture: FTA ผนึกความร่วมมือภาคี จัดประชุมนานาชาติ “แนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาการเผาพืชผลทางการเกษตรในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” กรุงเทพฯ , 1 ตุลาคมที่ผ่านมา - ผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรกรรมกว่า 250 คน รวมถึงสื่อมวลชนไทย 16 แห่ง นักการทูต ผู้กำหนดนโยบาย และผู้นำภาคเอกชน ได้เข้าร่วมงานสัมมนาเรื่อง "การลดมลพิษทางอากาศด้วยการหลีกเลี่ยงการเผาในภาคเกษตรกรรม" Reduction of Air Pollution through Avoidance of Burning in Agriculture’ เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของประเทศไทย นั่นคือการเผาในภาคเกษตรกรรม งานนี้จัดโดย Friends of Thai Agriculture – FTA ร่วมกับ องค์กรนานาชาติหลายแห่ง ได้แก่ สมาคมเกษตรกรรมเยอรมัน ( DLG), GETHAC, GIZ Thailand, Winrock International และศูนย์เครื่องจักรกลเกษตรอย่างยั่งยืนแห่ง UNESCAP โดยงานสัมมนาได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาที่สร้างสรรค์เพื่อลดมลพิษ PM2.5 ที่เกิดจากการเผาข้าว ข้าวโพด และอ้อยในประเทศไทย สถานการณ์การเผาในภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย  การเผาในภาคเกษตรกรรมเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดมลพิษ PM2.5 ซึ่งส่...