ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

วช. สนับสนุนสิ่งประดิษฐ์ ชุดเครื่องมือเขย่าเกสรและพ่นผสมเกสรพันธุ์พืช คว้ารางวัลการวิจัยแห่งชาติ

 


สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สนับสนุนการพัฒนาและมอบรางวัลการวิจัยแห่งชาติ : รางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ประจำปี 2564 ระดับดี สาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา แก่ผลงานสิ่งประดิษฐ์คิดค้นแก่ผลงาน “ชุดเครื่องมือเขย่าเกสรและพ่นผสมเกสรพันธุ์พืช เพื่อการผลิตเมล็ดพันธุ์” แก่นายสมศักดิ์  แข็งแรง อาจารย์วิทยาลัยเทคนิคลำปาง


นายสมศักดิ์  แข็งแรง เปิดเผยว่า เกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือ ได้มีการปลูกพืชผักประเภท ฟักทอง แตงกวา พริก มะเขือ มะระ และพืชผักอื่นๆ เพื่อจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ เมล็ดฟักทอง เมล็ดแตงกวา เมล็ดผักขม เมล็ดผักสลัด ให้กับบริษัท เช่น บริษัทเจียไต๋ บริษัทโพเทคเมล็ดพันธุ์ บริษัทอีทส์ เวทส์ ซีด จำกัด (ตราศรแดง) แต่ความต้องการในการขยายพันธุ์ของเกษตรกรไม่เพียงพอ เนื่องจากเกษตรกรจะเก็บดอกสดของเกสรตัวผู้ มาสัมผัสกับดอกเกสรตัวเมีย โดยการผสมเกสรด้วยมือ หรือใช้พู่กันจิ้มเกสรตัวผู้สัมผัสกับเกสรดอกตัวเมีย ซึ่งการผสมด้วยมือจะทำยากลำบาก ผลผลิตติดยากไม่สมบูรณ์ บางครั้งอาจทำให้เกสรหัก เกิดความเสียหายต่อดอกได้ อีกทั้งยังเกิดความล่าช้าในการผสมเกสร ทำให้เกษตรกรต้องจ้างแรงงานในการผสมเกสรดอกทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกด้วย เมื่อการผสมเกสรแบบธรรมชาติไม่สำเร็จ ผู้ประดิษฐ์จึงมีแนวคิดในการสร้างชุดเครื่องมือเขย่าเกสรและพ่นผสมเกสรพันธุ์พืช เพื่อการผลิตเมล็ดพันธุ์ ชุดเครื่องมือนี้จะช่วยเกษตรกรในการเขย่าเพื่อเอาเกสรจากดอกพืชตัวผู้ไปผสมเกสรด้วยวิธีการพ่นละอองเกสรใส่ดอกพืชตัวเมียให้เกิดการผสมเกสร จนสามารถเกิดผลผลิตเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์ ทนทาน จนสามารถเพิ่มปริมาณการเพาะปลูกได้ โดยไม่ต้องจ้างแรงงานเพิ่ม และยังส่งผลให้สามารถสร้างรายได้แก่เกษตรกรได้เพิ่มมากขึ้น


ชุดเครื่องมือเขย่าเกสรและพ่นผสมเกสรพันธุ์พืช ประกอบด้วย เครื่องเขย่าเกสรใช้สำหรับเขย่าหรือสั่นสะเทือนให้ละอองเกสรตัวผู้หลุดออกจากช่อดอก ซึ่งช่อดอกตัวผู้ 1 กิโลกรัม จะได้ละอองเกสร 100 กรัม และเมื่อได้ละอองเกสรตัวผู้แล้ว ก็สามารถเลือกใช้เครื่องพ่นผสมเกสรที่มี 3 แบบ คือ 1) เครื่องพ่นผสมเกสรแบบพกพา 1 
ใช้สำหรับพ่นเกสรที่มีลักษณะดอกใหญ่ ซึ่งทำจากถังพ่นละอองน้ำขนาดเล็ก พกพาได้สะดวก สร้างแรงดันลมโดยใช้มือปั้มสร้างแรงดันลมไว้ในถังซึ่งมีขนาดเล็กสามารถใช้พ่นผสมเกสรดอก 4-5 วินาที ต่อ 1 ดอก พืชที่ใช้ เช่น ดอกแตงกวา ดอกฟักทองฯ 2) เครื่องพ่นผสมเกสรแบบสะพาย ใช้สำหรับพ่นผสมเกสรดอกเล็กที่เป็นพุ่ม ซึ่งทำจากถังพ่นละอองน้ำขนาดใหญ่ สะพายสะดวก สร้างแรงดันลมโดยใช้มือสูบขึ้น-ลง แล้วสร้างแรงดันลมไว้ในถังใหญ่ สามารถใช้พ่นผสมเกสร 7-10 วินาที ต่อ 1 ตัน พืชที่ใช้ เช่น พริก มะเขือเทศ 3) เครื่องพ่นผสมเกสรแบบพกพา 2 แบบไฟฟ้า ใช้สำหรับพ่นผสมเกสรที่มีลักษณะดอกใหญ่ ดอกเล็ก หรือดอกที่เป็นพุ่ม ตัวเครื่องทำมาจากพลาสติกพิมพ์ขึ้นรูป3 มิติ คล้ายรูปปืน มีลักษณะเล็กกะทัดรัด การออกแบบท่อด้านในเป็นรูปคอคอด อาศัยหลักการไหลเพื่อสร้างแรงลมด้วยปั้มลมขนาดเล็ก ทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง ควบคุมการทำงานด้วยปุ่มสวิตซ์แบบกด-ปล่อย เครื่องฯ สามารถใช้พ่นผสมเกสรดอกเล็กหรือดอกใหญ่ได้ เช่น ดอกพริก มะเขือเทศ ฟักทอง และแตงกวา โดยเฉลี่ย 1-2 วินาที ต่อ ดอก


นายสมศักดิ์  แข็งแรง กล่าวต่อว่า ได้มีการนำชุดเครื่องมือเขย่าเกสรและพ่นผสมเกสรพันธุ์พืช ไปให้เกษตรกรในพื้นที่ อำเภอแจ้ห่ม อำเภอเมือง อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง และอำเภอฟากท่า จังหวัดอุตรดิตถ์ ทดลองผสมเกสร ดอกแตงกวา ฟักทอง พริก และมะเขือเทศ ซึ่งผลปรากฏว่าเกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตได้
เยอะขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้มากกว่าเดิม 40,000 – 80,000 บาทต่อปี สำหรับผู้ที่สนใจเครื่องครื่องมือเขย่าเกสรและพ่นผสมเกสรพันธุ์พืช สามารถติดต่อได้ที่ 089-269-2088 



ผู้ประดิษฐ์ที่ได้รับรางวัลการวิจัยแห่งชาติ จะได้รับประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติ และเงินรางวัลจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในงานวันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2564 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 30 พฤษภาคม 2564 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

2-4 ธันวาคมนี้ พบกันที่ งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024)

สมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ พันธมิตรในภาคตะวันออก และภาครัฐ ร่วมจัดงานสัตว์น้ำเศรษฐกิจยิ่งใหญ่ประจำปี 2567 งานสัตว์น้ำไทย 2024 (Thai Aqua Expo 2024) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3-4 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมซันไรส์ ลากูน โฮเทลแอนด์กอล์ฟ จ.ฉะเชิงเทรา ภายใต้แนวความคิด “ปรับกลยุทธ์สัตว์น้ำไทย สร้างกำไรทุกภาคส่วน” โดยสมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับ สมาคม สหกรณ์ ชมรม กลุ่มแปลงใหญ่ ในภาคตะวันออกก รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ และบริษัทเอกชนผู้ร่วมสนับสนุน ภายใต้มีวัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อเผยแพร่ความรู้ นวัตกรรม การส่งต่อข้อมูลเพื่อให้เกษตรกร สามารถวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ ถ่ายทอดแนวทางการลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่ในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และกระตุ้นให้มีการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น ภายในงานมีการเสวนา และสัมมนาให้ความรู้กับเกษตรกรและผู้ที่สนใจ ตลอดระยะเวลาการจัดงาน ทั้ง 3 วัน รวมถึงมีการจัดแสดงสินค้าของบริษัทและผู้ค้าปัจจัยการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยมีพื้นที่จัดแสดงสินค้ามากกว่า 70 บูท และมีบริษัทสนใจเข้าร่วม...

นวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้สู่ชุมชน

  วช. เสริมแกร่ง มรภ.อุตรดิตถ์ ผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 IN 1 จากวัสดุเหลือทิ้ง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นักวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ นำองค์ความรู้ และนวัตกรรมการผลิตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ส่งเสริมรายได้พื้นที่เป้าหมาย สร้างเกษตรกรต้นแบบ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.สุรินทร์ กว่า 100 ราย แนะใช้ถ่านดูดซับกลิ่น ความชื้น ยกระดับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้ อมให้ยั่งยืน โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนั กงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จากปัญหาเศษวัสดุเหลือทิ้ งทางการเกษตร อาทิ เปลือกทุเรียน เหง้ามันสำปะหลัง แกนข้าวโพด ข้อไม้ไผ่ รวมถึงเศษกิ่งไม้ริมทาง ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิ ดประโยชน์มากนัก  อีกทั้งการจัดการโดยเผาเศษวัสดุ เหลือทิ้งในที่โล่ง ยังเป็นการปล่อยก๊าซเรื อนกระจกและมลสารเข้าสู่ชั้ นบรรยากาศ องค์ความรู้และนวัตกรรมการผลิ ตถ่านดูดกลิ่น 3 In 1 ด้วยวิธีไพโรไลซิส จึงนับเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ ไขประเด็นปัญหาดังกล่าวได้ ขณะนี้นักวิจัยได้ถ่ายทอดองค์ ความรู้และติดตั้งนวัตกรรมแล้ว ประกอบด้วย เตาผลิตถ่านดูดกลิ่นแบบไพโรไลซิ ส เครื่...

FTA ผนึกความร่วมมือภาคี “การลดมลพิษทางอากาศด้วยการหลีกเลี่ยงการเผาในภาคเกษตรกรรม”

  Friends of Thai Agriculture: FTA ผนึกความร่วมมือภาคี จัดประชุมนานาชาติ “แนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาการเผาพืชผลทางการเกษตรในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” กรุงเทพฯ , 1 ตุลาคมที่ผ่านมา - ผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรกรรมกว่า 250 คน รวมถึงสื่อมวลชนไทย 16 แห่ง นักการทูต ผู้กำหนดนโยบาย และผู้นำภาคเอกชน ได้เข้าร่วมงานสัมมนาเรื่อง "การลดมลพิษทางอากาศด้วยการหลีกเลี่ยงการเผาในภาคเกษตรกรรม" Reduction of Air Pollution through Avoidance of Burning in Agriculture’ เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของประเทศไทย นั่นคือการเผาในภาคเกษตรกรรม งานนี้จัดโดย Friends of Thai Agriculture – FTA ร่วมกับ องค์กรนานาชาติหลายแห่ง ได้แก่ สมาคมเกษตรกรรมเยอรมัน ( DLG), GETHAC, GIZ Thailand, Winrock International และศูนย์เครื่องจักรกลเกษตรอย่างยั่งยืนแห่ง UNESCAP โดยงานสัมมนาได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาที่สร้างสรรค์เพื่อลดมลพิษ PM2.5 ที่เกิดจากการเผาข้าว ข้าวโพด และอ้อยในประเทศไทย สถานการณ์การเผาในภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย  การเผาในภาคเกษตรกรรมเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดมลพิษ PM2.5 ซึ่งส่...